บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด ประเมินว่า ดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์ถัดไป (4-8 ก.ค.) มีแนวรับที่ 1,550 และ 1,535 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,580 และ 1,600 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.ย.ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ รวมถึงประเด็นรัสเซีย-ยูเครน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการบริการ ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานเดือนมิ.ย. รวมถึงบันทึกการประชุมเฟด ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิตและยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ของยูโรโซน รวมถึงดัชนี PMI เดือนมิ.ย.ของจีน ญี่ปุ่น อังกฤษ และยูโรโซน
โดยตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวนต่อเนื่อง ทั้งนี้ หุ้นไทยดีดตัวขึ้นช่วงต้นสัปดาห์ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ ประกอบกับมีแรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามา ก่อนจะร่วงลงแรงในเวลาต่อมา หลังนักลงทุนกลับมากังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยอีกครั้ง ขณะที่เฟดยืนยันจะเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อคุมเงินเฟ้อต่อไป อย่างไรก็ดี หุ้นไทยฟื้นตัวกลับมาได้เล็กน้อยช่วงปลายสัปดาห์สวนทางตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยมีแรงหนุนจากตัวเลขส่งออกไทยล่าสุดที่ออกมาดีกว่าคาด ประกอบกับมีแรงซื้อคืนหุ้นหลายกลุ่ม อาทิ อสังหาริมทรัพย์ เทคโนโลยี และธนาคารที่ได้รับอานิสงส์จากการยกเลิกเพดานการจ่ายเงินปันผล
ทั้งนี้ ในวันศุกร์ (1 ก.ค.) ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,572.67 จุด เพิ่มขึ้น 0.25% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 59,307.70 ล้านบาท ลดลง 4.26% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 1.49% มาปิดที่ 597.48 จุด