SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,560.27 จุด ลดลง 12.40 จุด (-0.79%) มูลค่าการซื้อขาย 55,686.41 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับลงจากความกังวลเศรษฐกิจโลกถดถอยและจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในจีนกลับมาสูงขึ้น รวมถึงเงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 5 ปี 6 เดือน นอกจากนั้น ตลาดฯยังคาดเงินเฟ้อของไทยเดือน มิ.ย.ที่จะประกาศพรุ่งนี้ที่ 7.45% เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้ายิ่งเป็นปัจจัยหนุนให้ กนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ย แนวโน้มวันพรุ่งนี้ ให้แนวรับ 1,550 -1,544 จุด แนวต้าน 1,568 และ 1,575 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,560.27 จุด ลดลง 12.40 จุด (-0.79%) มูลค่าการซื้อขาย 55,686.41 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวเคลื่อนไหวในแดนลบเกือบทั้งวัน ดัชนีทำระดับสูงสุด 1,577.10 จุด และระดับต่ำสุด 1,559.64 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 351 หลักทรัพย์ ลดลง 1,399 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 375 หลักทรัพย์
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีเอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับลงจากความกังวลเศรษฐกิจทั่วโลกถดถอยและจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดของจีนกลับมาสูงขึ้น ประกอบกับมีแรงขายของนักลงทุนต่างชาติหลังเงินบาทอ่อนค่าหนักสุดในรอบ 5 ปี 6 เดือน ซึ่งหากเงินบาทยังอ่อนค่าลงอีกจะทำให้นักลงทุนต่างชาติขายออกมากขึ้นก็จะเป็นปัจจัยกดดันตลาดเพิ่มขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม ปริมาณการซื้อขายวันนี้ยังค่อนข้างเบาบางและลักษณะตลาดซึมลง
นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่างบการเงินของบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ในไตรมาส 2/65 น่าจะชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่ปรับสูงขึ้น พร้อมทั้งเก็งว่าตัวเลขเงินเฟ้อไทยเดือน มิ.ย.อาจสูงขึ้นเป็น 7.45% จากเดือน พ.ค.อยู่ที่ 7.1% หากเป็นเช่นนั้นจะเป็นปัจจัยให้การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในวันที่ 10 ส.ค.นี้ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ย และเมื่อดอกเบี้ยมีแนวโน้มสูงขึ้นก็จะกระทบมูลค่าหุ้น วันนี้จึงมีแรงขายลดความเสี่ยงออกมา
อย่างไรก็ตาม คาดว่าเงินเฟ้อในไตรมาส 3/65 จะสูงกว่าไตรมาส 3/64 ที่มีฐานต่ำเพราะเป็นช่วงระบาดโควิดสายพันธุ์เดลต้า
แนวโน้มในวันพรุ่งนี้ หากตลาดยืนไม่อยู่ระดับ 1,560 จุดดัชนีน่าจะไหลลงต่อ มองแนวรับที่ 1,550-1,544 จุด แต่หากตลาดยืนได้ก็มองแนวต้านที่ 1,568 และ 1,575 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,364.89 ล้านบาท ปิดที่ 34.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,273.01 ล้านบาท ปิดที่ 200.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
JASIF มูลค่าการซื้อขาย 2,204.42 ล้านบาท ปิดที่ 9.10 บาท ลดลง 0.40 บาท
TU มูลค่าการซื้อขาย 2,011.64 ล้านบาท ปิดที่ 15.50 บาท ลดลง 1.10 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,724.82 ล้านบาท ปิดที่ 3.12 บาท ลดลง 0.48 บาท