ตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายร่วงต่อไปเป็นกว่า 20 จุด ตอบรับปัจจัยลบหลายประเด็น ทั้งสถานการณ์โควิด-19 ในจีนที่จำนวนผู้ติดเชื้อเร่งตัวขึ้นอีกครั้งอาจกระทบแผนการกลับมาเปิดประเทศ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อของไทยพุ่งขึ้นสูงอาจเป็นแรงกดดันให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเงินบาทอ่อนค่าลงมาก โดยมีแรงขายกลุ่มแบงก์ และกลุ่มเปิดเมือง
เมื่อเวลา 15.19 น.ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,547.76 จุด ลดลง 12.51 จุด (-0.80%)
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.49 น. ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,540.19 จุด ลดลง 20.08 จุด (-1.29%)
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย (PI) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายปรับตัวลงไปกว่า 10 จุด ส่วนหนึ่งจากปัจจัยภายในประเทศ หลังจากกระทรวงพาณิชย์ประกาศตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือน มิ.ย.สูงถึง 7.66% มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ในระดับ 7.5% มองว่ามีโอกาสที่ กนง.จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายรอบนี้มากกว่า 0.25% อีกทั้งค่าเงินบาทก็อ่อนค่าแตะ 35.80 บาท/ดอลลาร์ ส่งผลให้ Fund Flow ไหลออกต่อเนื่อง ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็กลับมาสร้างความกังวลอีกครั้ง
ให้แนวต้าน 1,560 จุด และแนวรับ 1,540 จุด
ด้านนายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยบ่ายนี้ปรับตัวลงไปมากจากเม็ดเงินต่างชาติไหลออก ซึ่งเงินบาทอ่อนค่าลงเรื่อยๆ และเงินเฟ้อของไทยเดือนมิ.ย.อยู่ที่ 7.66% เป็นระดับค่อนข้างสูง ก็ทำให้เป็นปัจจัยที่เพิ่มความกังวลกับตลาด ประกอบกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งต่างประเทศและในประเทศไทยเร่งตัวขึ้นมาก็เกิดความกังวลอีกทางหนึ่งด้วย
ให้แนวรับแรกที่ 1,545 จุด แนวรับถัดไปที่ 1,515 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,550 จุด