นายนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ (SCM) กล่าวถึงโอกาสการเติบโตในครึ่งปีหลังของปี 65 ว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้น กำลังซื้อของผู้บริโภคเริ่มฟื้นตัว และมีโมเมนตัม (Momentum) ในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลดีต่อการเติบโตของ SCM
ดังนั้น บริษัทจึงมีความมั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปี 2565 จะเติบโตได้ตามเป้าหมายรายได้รวมเติบโตขึ้น 20% จากปี 64 โดยขับเคลื่อนผ่านกลยุทธ์ อาทิ 1.การขยายเพิ่มฐานสมาชิก, 2.การเจาะขยายตลาดเกษตรกรและตลาด Silver Age, 3.การขยายดีลเลอร์ต่างประเทศ และ 4.การพัฒนายกระดับความแข็งแกร่งของทีมขยายเครือข่าย
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ (New Product) และผลิตภัณฑ์ทดแทน (Product Replacement) ในช่วงครึ่งปีหลังอีก อาทิ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่เป็นสารกำจัดวัชพืชและเพิ่มฮอร์โมนพืช ภายใต้แบรนด์ "Growing More", ครีมบำรุงผิวหน้า Brightening ภายใต้แบรนด์ "S Mone", ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อการนอนหลับ ภายใต้แบรนด์ "Nutrinal" เป็นต้น
สำหรับแผนความคืบหน้าธุรกิจลิสซิ่งภายใต้ชื่อ บริษัท จัดให้ ลิสซิ่ง จำกัด จะสามารถเริ่มดำเนินการในเชิงพาณิชย์ภายในเดือน ส.ค.65 ตั้งเป้าเบื้องต้นว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งการลงทุนในธุรกิจลิสซิ่งครั้งนี้ถือเป็นการแตกไลน์ธุรกิจใหม่ของ SCM โดยมองว่าธุรกิจดังกล่าวจะสามารถรองรับความต้องการของกลุ่มสมาชิก MLM ที่มีอยู่กว่าแสนรายในขณะนี้ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ยังมีแผนขยายการต่อยอดผ่านธุรกิจเดิม ทั้งจากตัวบริษัท SCM และโรงงานผลิตในเครือ ภายใต้ชื่อบริษัท เอสซีเอ็ม อินโนเวทีฟ จำกัด (SCM Innovative Co., Ltd.) (SMI) และเดินหน้าขยายตลาด OEM รับจ้างผลิตสินค้าอาหารเสริมสุขภาพด้วยเช่นเดียวกัน
ด้านนายแพทย์สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ ประธานกรรมการบริหาร SCM เปิดเผยว่า ด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดที่เน้นกลุ่มผู้บริโภครายใหม่ที่ใส่ใจในการดูแลสุขภาพ และกลุ่มลูกค้าเกษตรกรที่ต้องการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร รวมถึงได้จัดกิจกรรมทางการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภครับรู้ถึงแบรนด์มากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายในกลุ่มสินค้าหลักของบริษัท อาทิ 1. กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แบรนด์ นิวทรินัล (Nutrinal) 2. กลุ่มผลิตภัณฑ์เพิ่มผลผลิตทางการเกษตร แบรนด์ โกรวอิ้งมอร์ (Growing More) 3. กลุ่มผลิตภัณฑ์ใช้ในชีวิตประจำวัน แบรนด์ บอดี้เชียร์ (Body Cheer) และ 4. กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า แบรนด์ เอส โมเน่ (S MONE) มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากแผนกลยุทธ์ดังกล่าว ส่งผลภาพรวมยอดขายในช่วง 6 เดือนแรก มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผลักดันให้ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกปรับตัวในทิศทางเชิงบวก ในงวดไตรมาส 1/65 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ จำนวน 269 ล้านบาท หรือคิดเป็นยอดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 90 ล้านบาทต่อเดือน ขณะที่ไตรมาส 2/65 บริษัทได้ทำการตลาดเชิงรุกควบคู่ไปกับการขยายฐาน สมาชิกเพิ่มเติม รวมถึงมีผลิตภัณฑ์ใหม่เข้ามาเสริมการขาย ทำให้รายได้จากการขายสินค้าและบริการในงวดไตรมาส 2/2565 ยังคงอยู่ในทิศทางที่เติบโตต่อเนื่อง จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) และจากงวดเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY)
ผลิตภัณฑ์ที่ติด Top 10 ขายดีที่สุด ได้แก่ 1. S Vera Plus เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องดื่มน้ำว่านหางจระเข้ ผสมสารสกัดจากโกจิเบอร์รี่, 2. S.O.D More เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต้านอนุมูลอิสระที่เหนือกว่าสารต้านอนุมูลอิสระทั่วไป, 3. Phytovy เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ล้างสารพิษตับและลำไส้, 4. Transform Plus เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารพืช กระตุ้นการเจริญเติบโต เร่งต้น เร่งราก, 5. Brazillian Arabica Coffee เป็นลิตภัณฑ์กาแฟ บราซิลเลี่ยน อาราบิก้า ผสมคอลลาเจนและใยอาหาร,
6. ยาสีฟัน Benfite, 7. Nutriga เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ต่อต้านความเสื่อมของเซลล์, 8. Mores Collagen ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม สารสกัดคอลลาเจนจากปลาทะล 10,000 มิลลิกรัม, 9. Click Plus อาหารสำหรับสุภาพสตรี ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนเพศในร่างกายให้ทำงานปกติ, 10. S vera Gel เป็นเจลว่านหางจระเข้ รักษาสิวลด เลือนริ้วรอย ซึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างยอดขายให้กับ SCM ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาและคาดว่าจะได้รับการตอบรับอย่างต่อเนื่อง"
ทั้งนี้ ด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดที่เน้นให้ความสำคัญ ทั้งการเจาะตลาดกลุ่มเกษตรกร การเจาะตลาดผ่านเครื่องมือดิจิทัล การปั้นขุนพลนักขยายเครือข่าย การแข่งขัน Top Network Expansion Award การสร้างการรับรู้แบรนด์และคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ไปยังผู้บริโภคให้มากขึ้น รวมถึงการใช้ Big Data เพื่อวิเคราะห์และสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อแบรนด์ให้กับลูกค้า ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีสมาชิกรวมทั้งในและต่างประเทศ จำนวน 190,000 ราย เพิ่มขึ้นอย่างมีนัย จาก ณ สิ้นปี 64 ที่ 120,000 ราย