นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง (PSH) เปิดเผยว่า บริษัทนำทีมลงทุนรอบพรี ซีรี่ส์ บี ในสตาร์ทอัพด้านเฮลท์เทค "นัลลูรี่" (Naluri) ผู้ให้บริการสุขภาพแบบดิจิทัลสัญชาติมาเลเซียที่ประสบความสำเร็จและกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ร่วมกับ Bertelsmann Investments จากเยอรมนี และ Striders Corporation จากญี่ปุ่น และยังได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนเดิมอีกหลายราย รวมถึง M Venture Partners (MVP) จากสิงคโปร์, Palm Drive Capital สหรัฐอเมริกา และ INP Capital จากแคนาดา ด้วยวงเงินลงทุนรวมทั้งหมด ประมาณ 248 ล้านบาท (7 ล้านเหรียญสหรัฐ)
ขณะที่ "นัลลูรี่" มีแผนขยายการให้บริการในไทย อินโดนีเซีย และครอบคลุมเอเชียตะวันอกเฉียงใต้ รวมถึงออสเตรเลีย โดย PSH มุ่งหวังต่อยอดพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการดูแลสุขภาพ รวมถึงยกระดับบริการแก่ลูกบ้านพฤกษาและผู้รับบริการของโรงพยาบาลวิมุตในอนาคต
"บริษัทเน้นการลงทุนร่วมในธุรกิจสตาร์ทอัพด้าน Health Tech และ Prop Tech โดยมีหลักในการพิจารณากลุ่มธุรกิจที่จะร่วมลงทุน คือต้องมีแผนพัฒนาโซลูชันที่มุ่งส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตทั้งด้านการอยู่อาศัยและการดูแลสุขภาพ ที่สำคัญต้องเป็นโมเดลธุรกิจ ที่ยึดหลักการดำเนินธุรกิจ โดยให้ความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน (Sustainability) อันเป็นแนวทางการประกอบกิจการของกลุ่มพฤกษามาโดยตลอด"นายอุเทน กล่าว
นายอุเทน กล่าวว่า "นัลลูรี่" เป็นผู้ให้บริการสุขภาพแบบดิจิทัล (Digital Health Service Provider) โดยให้บริการด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีสุขภาพผ่านแอปพลิเคชั่น "Naluri" ซึ่งมอบโซลูชั่นการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน (Preventive Health Care) ที่ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ ใช้เทคโนโลยีในการดูแลตัวบุคคลแบบครบถ้วน เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนที่มีความเสี่ยง หรือ ต้องการจัดการโรคเรื้อรัง ปัญหาสุขภาพจิต รวมถึงเบาหวานชนิดที่ 2 ความดันโลหิตสูง ภาวะอ้วนลงพุง และภาวะไขมันในเลือดสูง ซึ่งเป็นกลุ่มโรคที่เป็นปัญหาระดับภูมิภาคและเป็นปัจจัยที่ทำให้ศักยภาพในการทำงาน อายุขัย และผลิตภาพทางเศรษฐกิจลดลง
นักลงทุนรายใหม่เข้ามาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจครั้งนี้ นำทีมโดย PSH จากประเทศไทย Bertelsmann Investments จากเยอรมนี และ Striders Corporation ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทาง Naluri เองยังมีแรงสนับสนุนจากนักลงทุนเดิมหลายราย อาทิ Sumitomo Corporation จากประทศญี่ปุ่น M Venture Partners จากสิงคโปร์ Palm Drive Capital สหรัฐอเมริกา และ INP Capital จากแคนาดา โดยการลงทุนครั้งนี้เพื่อการขยายธุรกิจเชิงกลยุทธ์ของ Naluri ในประเทศไทย และช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทฯ ในมาเลเซีย สิงคโปร์ และ อินโดนีเซีย รวมทั้งมีแผนขยายบริการในอนาคตให้ครอบคลุมทุกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงออสเตรเลียด้วย