(เพิ่มเติม) TEAM ตั้งเป้าปี 51 ทำรายได้ 2.6 พันลบ.ขยายลูกค้ายุโรปทดแทนตลาดสหรัฐ

          บมจ.ทีมพรีซิชั่น(TEAM) ตั้งเป้ารายได้ปี 51 เพิ่มขึ้นเป็น 2.6 พันล้านบาท จาก 2.4 พันล้านบาทในปี 50 โดยบริษัทกำลังขยายกลุ่มลูกค้าในยุโรปเพื่อทดแทนตลาดสหรัฐที่กำลังประสบกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาลูกค้าใหม่ประมาณ 44 ราย มากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นลูกค้าในยุโรป นอกนั้นเป็นสหรัฐและเอเชีย ทั้งนี้เพื่อต้องการลดความเสี่ยงตลาดสหรัฐ
          นายจักรพันธ์ มานัสสถิตย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TEAM กล่าวว่า ยอดขายที่ตั้งไว้อยู่ภายใต้สมมติฐานผลกระทบค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นและมีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้นไปอีก โดยประเมินค่าเงินบาทที่ 31.50 บาท/ดอลลาร์ ส่วนกำไรสุทธิปีนี้คาดว่าจะใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีกำไร 338.6 ล้านบาท 
          "กำำไรสุทธิเราพยายามทำให้ใกล้เคียงกับปีก่อน โดยส่วนตัวมองว่าค่าเงินบาทจะไปถึง 30 บาทได้ในปีนี้ ซึ่งก็คงจะกระทบกับรายได้ไปด้วย แต่เรื่องของค่าเงินบาทเราไม่สามารถไปทำอะไรได้ เพระาแะนั้นเราต้องพยายามขยายฐานลูกค้าเพื่อมาชดเชยตลาดที่สูญเสียไป" นายจักรพันธ์ กล่าว
          นายจักรพันธ์  ยอมรับว่า ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ยอดขายคงจะอ่อนตัวจากลูกค้าสหรัฐที่เริ่มชะลอคำสั่งซื้อแล้ว แต่หากบริษัทสามารถเจรจากับลูกค้าใหม่ทั้งหมดได้ข้อสรุปภายในครึ่งปีแรก ก็น่าจะเริ่มมียอดคำสั่งซื้อเข้ามาในช่วงครึ่งหลังของปี หรือ ปีหน้า 
          ปัจจุบัน บริษัทมีโครงสร้างลูกค้าจากสหรัฐประมาณ 70%, ยุโรป 20% และเอชีย 10% แต่บริษัทได้วางแผนไม่พึ่งลูกค้ากลุ่มใดเป็นหลัก โดยจะกระจายความเสี่ยงโดยการขยายตลาด รวมถึงกระจายผลิตภัณฑ์ด้วย
          "เราเตรียมพร้อมเปิดตลาดกับลูกค้าใหม่ๆ ซึ่งน่าจะส่งผลให้รายได้เข้่ามาทดแทนในการที่คำสั่งซื้อจากสหรัฐลดลง แต่หากคำสั่งซื้อไม่ลดลงก็น่าจะส่งผลในทางบวกได้" นายจักรพันธ์ กล่้าว
          นอกจากนี้ได้มีการทำการป้องกันความเสี่ยงด้วยการทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า และการควบคุมค่าใช้จ่ายและบริหารเพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ 21% ในปีก่อน เนื่องจากบริษัทมีการใช้วัตถุดิบจากต่างประเทศ 70% ขณะที่ในประเทศคิดเป็น 30%
          สำหรับในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ 100 ล้านบาท เพื่อใชั้ในการซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ เพื่อเพิ่มกำลังผลิต และเมื่อต้นปีที่ผ่านมาบริษัทได้ขยายพื้นที่การผลิตโรงงานที่จ.ปราจีนบุรีอีก 1 หมื่นตร.ม.เป็น 2.4 หมื่นตร.ม.เพืืื่อให้สามารถประกอบสินค้าสำเร็จรูปได้เพิ่มขึ้น