นายพงษ์สกร ดำเนิน ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการสายงานธุรกิจพลังงาน บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ากำไรสุทธิจากธุรกิจกัญชงและกัญชา แตะระดับ 1,000 ล้านบาทภายในปี 66 โดยคาดว่าจะมีปริมาณการจำหน่ายกัญชงและกัญชารวมกันไม่ต่ำกว่า 70,000 กิโลกรัม
บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจากรูปแบบการปลูกของบริษัทที่เป็นระบบโรงเรือนที่ได้มาตรฐาน เป็นพื้นที่เพาะปลูกของบริษัทฯ เอง ส่วนการปลูกก็เป็นแบบ Hydroponics ใช้น้ำ RO (Reverse Osmosis) การปลูกในวัสดุปลูกดินเผา การเพาะในโรงเรือนแบบกึ่งปิด ทำให้มั่นใจได้ว่ากัญชา กัญชงที่ GUNKUL เพาะปลูกมีคุณภาพและมาตรฐานสูงมากพอสำหรับนำไปทำสารสกัด รวมถึงเพื่อใช้การทางการแพทย์ จึงทำให้ได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้
ปัจจุบัน บริษัทมีโรงสกัดสาร CBD 1 แห่ง ตั้งอยู่ในจังหวัดปทุมธานี เพื่อใช้ในการผลิตสินค้าในหมวดเครื่องสำอาง เครื่องดื่ม และยาสมุนไพร กำลังการผลิตอยู่ที่ 200 กิโลกรัมต่อวัน(ดอกแห้ง) ส่วนพื้นที่เพาะปลูกกัญชงมีจำนวน 15 ไร่ บนพื้นที่ประมาณ 50 ไร่ และมีโรงเรือนเพาะปลูกจำนวน 13 โรงเรือน ซึ่งมีแผนขยายเป็น 35 โรงเรือน บนพื้นที่ 60 ไร่ ภายในสิ้นปี 65
บริษัทได้ขยายพื้นที่การปลูกครบ 3 เฟสเพื่อรองรับความต้องการของตลาดหลังจากที่มีการปลดล็อกกัญชงและกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด และยังสามารถขยายพื้นที่ได้อย่างต่อเนื่องได้กว่า 1,000 ไร่ หากมีความต้องการจากตลาดเพิ่มขึ้น โดยอยู่ระหว่างการศึกษาการส่งช่อดอกกัญชงไปจำหน่ายในตลาดต่างประเทศเพิ่มเติม
บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาตั้งโรงงานผลิตยาที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากกัญชงและกัญชา โดยอยู่ระหว่างพิจารณาอยู่ 2 ทางเลือก คือ นำสูตรยาเข้ามาเพื่อผลิตและจำหน่ายด้วยตนเอง หรือ เป็นการร่วมลงทุน (JV) กับผู้ผลิตยาในต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปลายปี 65 เบื้องต้นคาดจะใช้งบลงทุนราว 1,000 ล้านบาท ด้านทิศทางผลประกอบการของกลุ่ม GUNKUL ในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยได้รับปัจจัยหนุนหลักจากโครงการรับเหมาก่อสร้างต่างๆที่มีดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมมีปริมาณลมมากกว่าช่วงครึ่งปีแรก รวมไปถึงเริ่มรับรู่รายได้จากธุรกิจกัญชงและกัญชาเข้ามาเสริมด้วย