นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการ บมจ. จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรด้านดิจิตอลคอนเท้นท์ 2-3 ราย ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปได้ในปลายปีนี้ และหากสำเร็จจะทำให้อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ดีขึ้น 2 หลัก จากปีก่อนที่ Net Profit Margin อยู่ที่ 6.6% และจะหนุนให้รายได้จากดิจิตอลปรับขึ้นด้วยจากปีก่อนที่มีรายได้จากดิจิตอล 430 ล้านบาท แต่หากไม่สามารถสรุปพันธมิตรได้ จะยังสามารถเห็นการเติบโตได้อย่างน้อย 10%
"ธุรกิจดิจิตอล เวลามาเติบโตได้เร็ว แต่ก็อยู่ที่โอเปอเรเตอร์ด้วย ว่าจะเป็นใคร แต่เราเชื่อว่า การที่เราเปิดกว้างในการหาพันธมิตร"นายสุเมธ กล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนของธุรกิจเพลงเชื่อว่าจะมีรายได้จากธุรกิจเพลงในปีนี้ 4 พันล้านบาท หรือโต 10% จากปีก่อนจากการที่บริษัทปรับปรุงโมเดลธุรกิจเพลง รวมทั้งการขยายตลาดเพลงไปสู่ต่างประเทศ ด้วยการร่วมมือกับ Strategic Partner ด้วยการสร้าง Platform ของธุรกิจเพลงในต่างประเทศ ทำให้ลดความเสี่ยงในการลงทุน ส่วนการไปขยายตลาดต่างประเทศด้านเพลงนั้น จะหาประเทศใหม่ๆนอกเหนือจากที่ไปมาแล้วอย่าง เกาหลี ญี่ปุ่น เช่น กัมพูชา ซึ่งจากการสำรวจพบว่าที่กัมพูชาจะฟังเพลงไทย
นายสุเมธ กล่าวต่อว่า นอกเหนือจากธุรกิจดังกล่าวแล้ว GRAMMY ยังมองว่าโอกาสในการขยายงานด้านอีเว้นท์ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทด้วย โดยบริษัทจะร่วมกับพาร์ทเนอร์เข้าไปประมูลงานอีเว้นท์ในประเทศจีนที่มีมูลค่าหลักร้อยล้านบาท ซึ่งการทำงานอีเว้นท์ในต่างประเทศนั้นจะเป็นการขยายฐานรายได้และหากได้รับงานดังกล่าว คาดว่าจะทำให้สัดส่วนรายได้ด้านอีเว้นท์เพิ่มขึ้นเป็น 15% จากปัจจุบัน 13%
ทั้งนี้จากการขยายตัวของธุรกิจต่างๆ GRAMMY มองว่าในปีนี้รายได้จะเติบโต 10% หรือประมาณ 8 พันล้านบาท จากปีก่อน 7.3 พันล้านบาท
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/นิศารัตน์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--