ดัชนีหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์บวก +4.73% ได้รับปัจจัยหลักจากดัชนี NASDAQ ดีดขึ้นมาแรงเมื่อคืนนี้ และเงินบาทอ่อนมีส่วนช่วยหนุนรายได้จากการส่งออก และแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/65 ส่วนใหญ่ออกมาดี ยกเว้น HANA
เมื่อเวลา 10.19 น.
DELTA ปรับขึ้น 6.18% หรือเพิ่มขึ้น 21.00 บาท มาที่ 361.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 776.31 ล้านบาท
KCE ปรับขึ้น 3.21% หรือเพิ่มขึ้น 1.75 บาท มาที่ 56.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 310.47 ล้านบาท
HANA ปรับขึ้น 2.48% หรือเพิ่มขึ้น 1.00 บาท มาที่ 41.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 96.85 ล้านบาท
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์-รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์เช้านี้ปรับตัวขึ้นได้ดี ตอบรับ Sentiment เชิงบวกจากดัชนี NASDAQ ดีดขึ้นแรงราว 3% โดยฟื้นตัวขึ้นมาหลังจากทำจุดต่ำสุด โดยดัชนียกสูงขึ้นมาทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 1 เดือน ทำให้มองภาพกลุ่มเทโนโลยีมีการฟื้นตัว
ประกอบกับ เงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง ซึ่งเช้านี้มาอยู่ที่ 36.66 บาท/ดอลลาร์ และหากยืนได้ระดับ 36.70 บาท/ดอลลาร์จะเป็นการอ่อนค่าสุดเกือบ 16 ปี โดยหากยังมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อไปก็ทำให้กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ได้ประโยชน์มากขึ้น
สำหรับ บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย)(DELTA) และ บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ (KCE) แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/65 ออกมาดีมากเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยคาดว่า DELTA กำไรสุทธิจะเติบโต 54% YoY และ KCE คาดกำไรสุทธิโต 13% YoY ส่วน HANA ผลงานในไตรมาส 2/65 คาดว่าจะติดลบ 44% YoY รับผลกระทบจีนล็อกดาวน์
นอกจากนั้น ราคาหุ้นกลุ่มนี้ปรับตัวลงมามาก โดย KCE ลงมาลึกแล้ว