ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวน์ ตามตลาดตปท.,ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯดีเกินคาด

          นายอนุพนธ์ ศรีอาจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.บีฟิท กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวน์ขึ้น ตามตลาดต่างประเทศ ทั้งตลาดสหรัฐฯและตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก โดยมีผลบวกจากที่มีข้อเสนอการปรับราคาซื้อหุ้นของ"แบร์ สเติร์นส์"เพิ่มขึ้น อาจจะช่วยคลายความวิตกในเรื่องของการเงินได้บ้าง ในเรื่องของมูลค่าทรัพย์สิน และยังมีตัวเลขยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้นเกินคาด       
          "นี่เป็นข้อมูลส่วนหนึ่งที่ช่วยกระตุ้น เพราะจริง ๆ สหรัฐฯพยายามมองว่าจุดต่ำสุดได้เกิดขึ้นหรือยัง ซึ่งบางคนมองว่ายัง แต่บางคนก็ว่าให้ดูตัวเลขเศรษฐกิจก่อนเมื่อไรที่เป็นบวก แล้วขยับขึ้นได้ต่อเนื่อง ก็น่าจะผ่านจุดเลวร้ายได้บ้าง แต่ข้อมูลตรงนี้ก็ยังไม่ได้ยืนยันตรงนี้ ซึ่งก็คงจะต้องรอดูต่อไปอีก"นายอนุพนธ์ กล่าว
          ส่วนปัจจัยภายในเรื่องการเมืองจะต้องติดตามดูต่อไป ทั้งเรื่องคดียุบพรรคด้วย เพราะประเด็นเหล่านี้ก็บั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนอยู่ การรีบาวน์ของตลาดฯวันนี้จึงมีขอบเขตจำกัดเหมือน โดยให้แนวรับ 800 จุด แนวต้าน 815 จุด พร้อมแนะนำการเล่นหุ้นช่วงนี้ส่วนหนึ่งต้องถือเงินสดอยู่ และถ้าเล่นสั้นก็เล่นรีบาวน์เท่านั้น          
          ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :  
          - ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(24 มี.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 12,548.64 จุด เพิ่มขึ้น 187.32 จุด(+1.52%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,349.88 จุด เพิ่มขึ้น 20.37 จุด(+1.53%)และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,326.75 จุด เพิ่มขึ้น 68.64 จุด (+3.04%)  
          - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 70.76 ล้านบาทเมื่อวานนี้
          - ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน พ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 100.86 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.98 ดอลลาร์
          - สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ เผยยอดขายบ้านมือสองในเดือนก.พ.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.9% แตะที่กว่า 5 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 1 ปี และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทคาดการณ์ว่ายอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ.จะปรับตัวลดลง 
          - "สุรพงษ์" ย้ำเศรษฐกิจไทยเข้าขั้น "ไอซียู" จำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นอย่างต่อเนื่องเสนอครม.วันนี้ (25 มี.ค.) ฟื้น 4 โครงการประชานิยม อุ้มรากหญ้า วงเงิน 3.5 หมื่นล้าน ส่วน "ออมสิน" เสนอลดดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคารประชาชนเหลือ 0.25% ต่อเดือน "ธ.ก.ส." ดีเดย์ 1 เม.ย. เดินหน้าโครงการพักหนี้-ลดดอกเบี้ย 3% ธปท.แนะเน้นเพิ่มขีดแข่งขันในระยะยาวรับเศรษฐกิจโลกผันผวนรวดเร็ว
          - ผู้บริหารบมจ.ปตท. กล่าวสถานการณ์ราคาน้ำมันช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่าการตลาดที่เคยติดลบกลับมาเป็นบวกเฉลี่ยทุกผลิตภัณฑ์อยู่ที่ระดับ 1 บาท/ลิตร ในขณะที่ค่าการตลาดเบนซินสูงกว่า 1 บาท/ลิตร ส่วนดีเซลอยู่ที่ 40 สต./ลิตร จึงมีโอกาสที่ราคาเบนซินจะปรับลดลงได้อีก 40-50 สต./ลิตร ในสัปดาห์นี้
          - คลังเล็งออกตราสารหนี้กู้ในประเทศ หาเงินสร้างรถไฟฟ้า 5 แสนล้าน ที่เหลือกู้นอก
          - รองผู้ว่าฯ ธปท.ส่งสัญญาณชัด 9 เม.ย.นี้ กนง.ไม่ปรับลดดอกเบี้ยตามเฟด ลั่นดอกเบี้ยจะต้องตอบสนองภาวะในประเทศมากกว่าปัจจัยภายนอก ขณะนี้ดอกเบี้ยเอื้อต่อการปล่อยสินเชื่อและการลงทุน ยกประเด็นเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ทำให้ ธปท.ต้องรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจหนุนมูลค่าเงินสร้างกำลังซื้อในมือประชาชน
          - สบน.เผยตัวเลขหนี้สาธารณะสิ้นม.ค.51 พบรัฐบาลกู้เงินในประเทศสูงถึง 4.25 หมื่นล้านบาทชดเชยขาดดุลงบประมาณและบริหารดุลเงินสดของรัฐ ล่าสุดตัวเลขหนี้สาธารณะแตะระดับ 3.32 ล้านล้านบาท คิดเป็น 36.3% เพิ่มขึ้นกว่า 3.74 หมื่นล้านบาท
          - ดร.วีรพงษ์ เตือนปัญหาเศรษฐกิจไทยรอบนี้จะพังเพราะค่าเงินบาทแข็ง เตือนแบงก์ชาติเงินเฟ้อจากต้นทุนแพงแก้ด้วยนโยบายการเงินไม่ได้ แนะเปลี่ยนมากระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจแทน เห็นด้วยการตรึงค่าบาทคงที่ 38-40 บาทต่อดอลลาร์ พร้อมเสนอรัฐบาลเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการคลัง ติงสื่อมวลชนอย่าสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงการเมืองนอกระบบรัฐสภา จะทำชาติเสียหาย
          - ราคาข้าวสารขายปลีกในประเทศพุ่งไม่หยุด เผยสัปดาห์เดียวขยับ 3 ครั้ง ผู้ประกอบการประกาศ เม.ย.นี้ขยับอีก ส่งผลตลาดปั่นป่วน ด้าน "มิ่งขวัญ" สั่งศึกษากฎหมายนำสต็อกรัฐทำข้าวถุงธงฟ้าขายราคาถูก พร้อมชี้แจง แถลงสถานการณ์ราคาข้าว 26 มี.ค.นี้ ขณะที่วงในชี้คนไทยกินข้าวราคาสูงกว่าตลาดส่งออกต่างประเทศ
          - นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวขณะนี้ผู้ค้าทองคำไม่กล้าขายทองคำแท่งให้กับลูกค้า แม้จะให้เป็นใบจองแทนทองคำ และให้ลูกค้ามารับทองคำในภายหลัง เพราะสถานการณ์ ปัจจุบันทองคำในต่างประเทศเริ่มขาดตลาด เนื่องจากทุกประเทศในแถบเอเชียมีความต้องการซื้อทองคำเหมือนกัน ทำให้ขณะนี้ทองคำไม่เพียงพอต่อความต้องการ