ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ (25 มี.ค.) หลังจากที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากข่าวที่ว่า เจพีมอร์แกน ประกาศเพิ่มข้อเสนอซื้อกิจการแบร์ สเติร์นส์ และยอดขายบ้านมือสองในสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้นเกินคาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นเกือบ 190 จุด หลังจากที่เจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค ประกาศเพิ่มข้อเสนอซื้อกิจการแบร์ สเติร์นส์ จากเดิมที่ระดับ 2 ดอลลาร์/หุ้น เป็น 10 ดอลลาร์/หุ้น
ข้อเสนอดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะคลายความวิตกกังวลให้กับกลุ่มผู้ถือหุ้นของแบร์ สเติร์นส์ หลังจากที่ต้องผิดหวังมาแล้วกับข้อเสนอซื้อหุ้นในราคาแค่ 2 ดอลลาร์ต่อหุ้นก่อนหน้านี้ของธนาคารกลางสหรัฐในช่วงที่แบร์ สเติร์นส์ ล้มละลาย
สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนก.พ.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.9% แตะระดับ 5.03 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 1 ปี และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทคาดการณ์ว่ายอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ.จะปรับตัวลดลงแตะระดับ 4.85 ล้านยูนิต
ลิม แอนด์ แทน ซิเคียวริตี้ส์กล่าวว่า แผนช่วยเหลือแบร์ สเติร์นส์ เป็นปัจจัยที่ช่วยเรียกความเชื่อมั่นให้กลับมาในตลาดหุ้นสิงคโปร์ และแสดงให้เห็นว่า เฟดจะดำเนินการเท่าที่จำเป็นเพื่อสร้างเสถียรภาพให้เกิดขึ้นในตลาดสินเชื่อซึ่งมีความผันผวน
สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ณ เวลา 9.45 น.ตามเวลาท้องถิ่น (8.45 น.ตามเวลาประเทศไทย) ดัชนีสเตรทส์ไทม์เพิ่มขึ้น 47.36 จุด หรือ 1.6% แตะระดับ 2,975.15 จุด
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวเพิ่มขึ้น หุ้นดีบีเอส กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ หุ้นโอซีบีซี เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ และหุ้นธนาคารยูโอบี พุ่งขึ้น 44 เซนต์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--