บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ว่า มีมุมมองลบต่อกลุ่มพลังงาน จากข่าวที่ลิเบียเตรียมเพิ่มการผลิตน้ำมันเป็น 1.2mbd ใน 10 วัน และ Gasoline inventory สูงขึ้นท่ามกลาง US driving season หลังจากลิเบียประกาศกลับมาเปิดแหล่งผลิตน้ำมันและสถานีส่งออกหลังจากที่ได้ข้อตกลงกับผู้ประท้วงและผู้นำเผ่าในประเทศ ล่าสุดรัฐมนตรีพลังงานรายงานว่าปริมาณการผลิตน้ำมันของลิเบียฟื้นขึ้นมาสูงกว่า 700 พันบาร์เรลต่อวัน (kbd) และตั้งเป้าว่าจะกลับมาสู่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน (mbd) ภายใน 10 วัน ซึ่งเป็นระดับก่อนที่จะเกิดความขัดแย้งภายในประเทศ
ในขณะเดียวกัน ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันและราคาน้ำมันดิบ (crack spread) ของน้ำมัน gasoline ยังคงมีแนวโน้มอ่อนตัวหลังจากที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมัน gasoline คงคลังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 228.4 ล้านบาร์เรล (mmbbl) ในสัปดาห์ที่แล้ว สูงขึ้น 1.5% จากสัปดาห์ก่อนหน้า
KTBST มีมุมมองเป็นลบเล็กน้อยต่อข่าวนี้ โดยประเมินเบื้องต้นว่าหากลิเบียกลับมาผลิตและส่งออกน้ำมันได้ตามที่ประกาศไว้ จะสามารถเพิ่มอุปทานน้ำมันโลกได้ประมาณ 0.5mbd เป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมันดิบในช่วงสั้น ทั้งนี้ วานนี้ ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ Brent ลดลง 2.9% เป็น 103.9 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่ Singapore gasoline crack ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 14-15 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เทียบกับระดับสูงกว่า 40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นผลจากอุปสงค์ในช่วงฤดูกาลขับรถของ US ที่ต่ำกว่าคาด
อย่างไรก็ดี เราคาดว่าราคาน้ำมันดิบจะยังทรงตัวในระดับสูงใน H2/65 จากอุปทานพลังงานโลกที่ยังตึงตัวจากความขัดแข้งระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตกส่วน crack spread โดยรวมน่าจะยังได้ปัจจัยหนุนจากภาวะขาดแคลนน้ำมัน diesel อยู่ ทั้งนี้เรายังคงสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยปีนี้ที่ 105 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
ทั้งนี้ ยังคงน้ำหนักการลงทุน "เท่ากับตลาด" สำหรับกลุ่มพลังงาน และชอบหุ้นกลุ่มพลังงานต้นน้ำ คือ PTTEP (ซื้อ/เป้า 190.00 บาท) และ BANPU (ซื้อ/เป้า 16.00 บาท) ซึ่งเชื่อว่าจะยังคงได้ประโยชน์จากราคาพลังงาน (คือ น้ำมันดิบ ก๊าซฯ ถ่านหิน) ที่ยืนสูงในครึ่งหลังปี 65 จากภาวะอุปทานขาดแคลนทั่วโลกที่ยังดำเนินไป