KTB บวกนำกลุ่มแบงก์ที่ดัชนีปรับขึ้นมาได้ดีกว่า SET หลังจากหลายแบงก์งบไตรมาส 2/65 ออกมาดีกว่าคาด โดยเมื่อเวลา 10.04 น.ราคาหุ้น KTB บวก 3.33% หรือเพิ่มขึ้น 0.50 บาท มาที่ 15.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 348.02 ล้านบาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัศ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า สรุปกำไร Q2/65 กลุ่มธนาคาร ?2% Q-Q, +22% Y-Y โดยรวมใกล้เคียงคาด ธนาคารที่กำไรดีกว่าคาดเรียงลำดับ ได้แก่ KTB TTB KKP ส่วนที่เหลือค่อนข้างใกล้เคียงคาด แรงหนุนคือรายได้ดอกเบี้ยที่ไต่ระดับขึ้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการตั้งสำรองที่ลดลงตามภาพเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัว แนวโน้มกำไรโดยรวมใน H2/65 คาดว่ายังอยู่ในทิศทางที่ดีและได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยขาขึ้น
ทั้งนี้ ฟินันเซียฯ แนะนำ KTB ให้ราคาเป้าหมาย 18.20 บาท
ขณะที่ บล.เคทีบีเอสที แนะนำ"ซื้อ" หุ้น ธนาคารกรุงไทย (KTB) ปรับราคาเป้าหมายปี 66 เพิ่มเป็น 18.00 บาท อิง 2022E PBV ที่ 0.66x (-0.75D below 10-yr average PBV) จากเดิมที่ 16.00 บาท อิง 2022E PBV ที่ 0.60x (-1.00D below 10-yr average PBV) จากการปรับกำไรและ PBV เพิ่มขึ้น
KTB ประกาศกำไรสุทธิใน Q2/65 อยู่ที่ 8.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น +39% YoY แต่ลดลง -5% QoQ ดีกว่าที่ตลาด +23% และเราคาด +16% เพราะมีการตั้งสำรองลดลง, NIM เพิ่มขึ้น และ OPEX ยังอยู่ในระดับต่า ส่วน NPL ยังปรับตัวลดลงได้ดี กำไรสุทธิในครึ่งปีแรก 65 คิดเป็น 60% ของประมาณการ ทำให้มีการปรับคาดการณ์กำไรสุทธิในปี 65/66 เพิ่มขึ้น +4%/+3% จากการปรับ Credit cost และ Cost to Income ลดลง ให้ได้กำไรสุทธิในปี 65 อยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง +38% YoY
ขณะที่คาดว่าแนวโน้มกำไรสุทธิในไตรมาส 3/65 จะเพิ่มขึ้น YoY ต่อเนื่องจากสำรองฯลดลง ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น +23% ใน 3 เดือนที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับ SET จากกำไรในไตรมาส 1-2 ปี 65 ที่ออกมาดีกว่าตลาดคาดมาก
ด้าน valuation ปัจจุบันยัง laggard เมื่อเทียบในกลุ่มธนาคาร โดยซื้อขายที่ระดับต่าเพียง PBV ที่ 0.55x (กลุ่มธนาคารซื้อขายที่ 0.77x) ขณะที่เราคาดว่าจะมี upside เพิ่มจากการใช้ data ใน application เป๋าตังและอื่นๆที่ช่วยเหลือรัฐบาล ซึ่งสามารถนาข้อมูลมา cross-selling เพิ่มเติมได้อีกในอนาคต