TRUE ร่วง 9.92% หรือ ลดลง 0.48 บาท มาที่ 4.36 บาท มูลค่าซื้อขาย 2,649.10 ล้านบาท เมื่อเวลา 14.53 น. โดยราคาลงไปต่ำสุด 4.34 บาท จากราคาเปิด 4.86 บาท ราคาสูงสุด 4.96 บาท
ส่วน DTAC ร่วง 8.99% หรือ 4.25 บาท มาที่ 43.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,188.11 ล้านบาท โดยลงต่ำสุด 42.75 บาท จากราคาเปิด 47.50 บาท ราคาสูงสุด 48.50 บาท
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าว่า สาเหตุราคาหุ้น บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) และ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ปรับตัวลงไปมาก เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลหลังมีกระแสข่าวระบุว่าเสียงส่วนใหญ่ของคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่ได้ทำการศึกษาและวิเคราะห์การควบรวมกิจการของ TRUE และ DTAC คัดค้านการควบรวมกิจการ เมื่อวานนี้ (21 ก.ค.) ซึ่งจะนำเสนอเรื่องเข้าสู่ กสทช.ชุดใหญ่ในการประชุมครั้งที่จะมีขึ้นในเร็ว ๆ นี้
ขณะที่ นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ ประธานกรรมการ TRUE แถลงร่วมกับนายซิกเว่ เบรกเก้ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เทเลนอร์ กรุ๊ป บริษัทแม่ของ DTAC ว่า ปัจจุบันทั้งสองบริษัทอยู่ระหว่างการรอ กสทช.กำหนดเงื่อนไขเพื่อลดผลกระทบทางอ้อมที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนในการควบรวมกิจการ
ขณะนี้การควบรวมกิจการของทั้งสองบริษัทล่าช้ากว่าแผนเดิมภายในระยะเวลา 90 วันหลังจากที่บริษัทได้มีการยื่นแผนให้กับ กสทช.พิจารณาไปแล้วเมื่อเดือน ม.ค.65 ที่ผ่านมา ซึ่งทั้งสองบริษัทต้องการให้กระบวนการรับซื้อหุ้นคืนเป็นไปได้ตามแผนที่วางไว้เดิม คือในช่วงเดือน ส.ค. เพื่อไม่ให้กระทบต่อความมั่นใจในด้านของตลาดทุน และผู้ถือหุ้นของ TRUE และ DTAC ที่มีทั้งนักลงทุนชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงกองทุนระดับโลก
"กรอบระยะเวลาได้เลื่อนมาพอสมควรแล้ว แต่เนื่องด้วยเราเห็นว่า กสทช.ชุดนี้เข้ามาใหม่ แต่เราก็อยากจะเห็นว่ากระบวนการนี้เกิดขึ้นเร็ว ไม่เช่นนั้นจะมีผลกระทบต่อตลาดทุนและความมั่นใจของตลาดทุน ซึ่งผู้ถือหุ้นทั้ง 2 ฝั่ง มีทั้งในไทยและต่างประเทศ รวมถึงกองทุนระดับโลกที่เขารออยู่ การควบรวมจะทำให้บริการตลอดจนอินเตอร์เน็ตดีขึ้น ครอบคลุมขึ้น เร็วขึ้น ลูกค้าของทั้ง 2 องค์กรก็จะได้ประโยชน์"นายศุภชัย กล่าว