SIMAT สรุปร่วมทุนเวียดนาม Q2,ลุ้นรายได้ปีนี้โต 60%หากในปท.เร่งลงทุน IT

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 25, 2008 12:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายทองคำ มานะศิลปพันธ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ไซแมท เทคโนโลยี(SIMAT)เปิดเผยว่า บริษัทจะได้ข้อสรุปการร่วมทุนกับบริษัทไอทีในเวียดนามราวไตรมาส 2/51 คาดว่าจะใช้เงินเม็ดเงินเข้าไปลงทุนประมาณ 35 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเงินที่ระดมทุนได้จากการขายหุ้น IPO  70 ล้านบาท 
"ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับ partner ในเวียดนามเพื่อเข้าไปถือหุ้นไม่เกิน 49%" นายทองคำ กล่าว
การเข้าไปลงทุนดังกล่าวจะเป็นการสร้างรายได้ให้กับบริษัทในอนาคต เนื่องจากมองว่าประเทศเวียดนามจะมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดี และแนวโน้มธุรกิจไอทียังสามารถเติบโตได้ดีด้วย
นายทองคำ กล่าวอีกว่า สำหรับตลาดในประเทศ คาดว่าในช่วงไตรมาส 2/51 และ ไตรมาส 3/51 ลูกค้าในประเทศจะกลับมาลงทุนด้านไอที ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทในช่วงดังกล่าว โดยขณะนี้งานจากภาคเอกชนก็ยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และในช่วงครึ่งปีหลังเป็นช่วงไฮซีซั่นส์ของธุรกิจที่คาดว่าจะมียอดคำสั่งซื้อสินค้าเพิ่มเข้ามาถึง 50% เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี จึงมีส่วนช่วยสนับสนุนให้รายได้เติบโตตามเป้า
ในปีนี้ SIMAT วางแผนจะบุกสู่งานภาครัฐมากขึ้น ซึ่งโครงการจากภาครัฐตลอดปีนี้บริษัทฯ จะเข้าร่วมประมูลคิดเป็นหลัก 100 ล้านบาท ซึ่งหากบริษัทฯ สามารถประมูลโครงการขนาดใหญ่หลัก 30-40 ล้านบาทจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)ได้ ก็จะส่งผลทำให้รายได้ของบริษัทฯ เติบโตแบบก้าวกระโดดทันที
นายทองคำ กล่าวว่า หากความต้องการด้านไอทีของตลาดในประเทศเข้ามาเร็วกว่าที่คาดก็จะมีโอกาสที่รายได้ของบริษัทจะเติบโตขั้นสูงถึง 60% จากที่ตั้งเป้าหมายในลักษณะ conservative ที่ 20% ซึ่งจะต้องขึ้นกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงงบประมาณของภาครัฐที่จะออกมาในช่วงไตรมาส 2/51 และ ไตรมาส 3/51 ด้วย
การดำเนินธุรกิจในปีนี้ SIMAT จะเน้นเรื่อง RFID ให้มากขึ้น โดยวางเป้าที่จะเพิ่มยอดขาย RFID ให้เพิ่มขึ้น เนื่องจากขณะนี้ยอดขายยังมีไม่มากหากเทียบกับยอดขายส่วนอื่นๆ และจะพยายามขยายความครอบคลุมให้ทั่วประเทศมากขึ้นอีก ส่วนแผนการขยายธุรกิจในปีนี้ SIMAT เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ ผลิตภัณฑ์สำหรับทำฉลากและสิ่งพิมพ์ ที่ใช้กับเครื่องปริ๊นเตอร์ หรือเรียกว่าธุรกิจ Labels ซึ่งคาดว่าจะติดตั้งเครื่องจักรได้ช่วงต้นไตรมาส 2/51 และประเมินเบื้องต้นว่าหากภาวะเศรษฐกิจของประเทศปรับตัวอยู่ในทิศทางที่ดีธุรกิจดังกล่าวจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 50 ล้านบาท
Radio Frequency Identification : RFID คือ ระบบเทคโนโลยีไร้สายที่ใช้คลื่นความถี่วิทยุในการรับรู้ลักษณะเฉพาะของวัตถุแต่ละชิ้น ซึ่งกำลังมีแนวโน้มการขยายตัวมากในตลาดโลก ปัจจุบันเริ่มใช้กันอย่างแพร่หลาย อาทิ ห้างวอลล์มาร์ทของสหรัฐ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ