นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคระห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดย่อลงในกรอบ กังวลเศรษฐกิจโลกอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากสหรัฐรายงานตัวเลขเศรษฐกิจหลายๆตัวอ่อนแอลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลง 2.7 จุดสู่ระดับ 95.7 ในเดือน ก.ค.ปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ในขณะเดียวกันยอดขายบ้านใหม่ลดลง 8.1% สู่ระดับ 590,000 ยูนิตในเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย.63
นอกจากนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 65 เหลือ 3.2% จาก 3.6% ซึ่งถือเป็นการปรับครั้งที่ 3 แล้ว
อย่างไรก็ตาม การปรับตัวลดลงของดัชนีวันนี้คงไม่รุนแรงมากนัก เนื่องจากตลาดหุ้นไทยจะเข้าสู่ช่วงหยุดยาว ขณะที่คาดว่าการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะรู้ผลคืนนี้จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.75% จึงมองว่าไม่น่าจะมีผลกระทบมากนัก แต่ยังต้องติดตามการส่งสัญญาณของเฟดในการปรับขึ้นดอกเบี้ยในครั้งถัดไป
นอกจากนี้ ยังต้องติดตามการประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง และทิศทางแนวโน้มผลประกอบการในระยะต่อจากนี้
พร้อมให้แนวรับที่ 1,550 จุด และ แนวต้าน 1,560-1,565 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (26 ก.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด 31,761.54 จุด ร่วงลง 228.50 จุด หรือ -0.71%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,921.05 จุด ลดลง 45.79 จุด หรือ -1.15% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,562.57 จุด ร่วงลง 220.09 จุด หรือ -1.87%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,575.16 จุด ลดลง 80.05 จุด หรือ -0.29%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,684.48 จุด ลดลง 221.4 จุด หรือ -1.06% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,271.78 จุด ลดลง 5.66 จุด หรือ -0.17%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (26 ก.ค.34.) ที่ระดับ 1,553.18 จุด ลดลง 7.13 จุด, -0.46%
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 283.28 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 ก.ค.65
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย. (26 ก.ค.)ลดลง 1.72 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 94.98 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (26 ก.ค.) อยู่ที่ 3.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 26.73 อ่อนค่าเล็กน้อย จับตาผลประชุมเฟด มองกรอบ 36.60-36.85
- กกพ.เตรียมเคาะขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) งวดใหม่ (ก.ย.-ธ.ค.65) วันนี้ (27 ก.ค.) หลังเปิดรับฟังความเห็นให้ประชาชนเลือก 3 แนวทางหลัก คาดจะเลือกขึ้นในอัตราต่ำสุดจากงวดปัจจุบัน 68.66 สตางค์ต่อหน่วย โดยยังไม่ชำระหนี้ค่าเชื้อเพลิงให้กับ กฟผ. เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน
- "ประยุทธ์" เผย ครม.เห็นชอบมาตรการหนุนรถยนต์ไฟฟ้าลดภาษีประจำปีรถ EV ลง 80% ระยะเวลา 1 ปี สำหรับรถที่จดทะเบียน 1 ต.ค.65 -30 ก.ย.68 พร้อมยกเว้นอากรประกอบรถภายในประเทศ หวังจูงใจการใช้และการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ
- ครม.อนุมัติคนละครึ่ง เฟส 5 วงเงิน 2.1 หมื่นล้าน จ่ายคนละ 800 บาท รวมใช้งบ 5 เฟสกว่า 2.3 แสนล้านบาท พร้อมอนุมัติเติมเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีก นายกฯ ชี้รัฐบาลอัดมาตรการช่วยเหลือประชาชนแล้วกว่า 8.5 แสนล้าน "อาคม" คาดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 4.8 หมื่นล้านบาท หนุนจีดีพี 0.13% พร้อมอนุมัติปรับแผนการก่อหนี้ใหม่เพิ่มขึ้น 1.41 หมื่นล้าน
- นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) Re-Open ธุรกิจโรงแรมและธุรกิจเกี่ยวเนื่องวงเงินโครงการ 5,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ธุรกิจโรงแรมและสาขาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ให้มีสภาพคล่องนำมาปรับปรุง ซ่อมแซมสถานประกอบกิจการ หรือลงทุนในอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เครื่องอบผ้า เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้าอุตสาหกรรม เป็นต้น คาดว่าจะช่วยเหลือผู้ประกอบการ 1,000 ราย
*หุ้นเด่นวันนี้
- CHIC หรือ บมจ.ชิค รีพับบลิค เข้าเทรดในตลาด MAI วันนี้เป็นวันแรก ราคา IPO 0.90 บาท/หุ้น เป็นศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์ครบวงจรในรูปแบบ Stand alone ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัวทั้งตัวอาคารและสินค้าที่มีสไตล์ในเทรนด์เฟอร์นิเจอร์แบบใหม่ Modtrad style (Modern + Tradition style)
- ADVANC(กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า 253 บาท กำไรยังแกร่ง คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/65 ประมาณ 6.6 พันล้านบาท ทรงตัว yoy แต่เพิ่มขึ้น 5%qoq วันนี้มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวจากข่าวศาลปกครองกลางพิพากษาเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการโดย ADVANC ไม่ต้องชำระเงิน 3.1 หมื่นล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยให้กับทาง NT
- BRI (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 14.20 บาท คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/65 +3% Q-Q, +133% Y-Y ทำ All Time High หากไม่รวมกำไรจากเซ็น JV ใหม่ 1 แห่ง กำไรปกติคาด +32% Q-Q, +75% Y-Y หนุนจากยอดโอนเร่งขึ้น
- HMPRO (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 14.20 บาท กำไรไตรมาส 2/65 ใกล้เคียงตลาดคาดและยังเติบโต 6%YoY ในไตรมาสท้าทายสุดของปี ครึ่งปีหลังกำลังจะเปิดสาขาใหม่ที่ บางนา กม. 1 และเตรียมจัด Event กระตุ้นยอดขาย อย่าง HMPRO Super Expo ทุกสาขา แนวโน้มยอดขายและกำไรไตรมาส 3/65 เติบโตทั้ง YoY และ QoQ ประเมินการเปิดเมืองเต็มรูปแบบจะหนุน SSSG , ประเมินกำไรสุทธิปี 65-66 ที่ 6.28 พัน ลบ. และ 6.8 พัน ลบ. +15%YoY และ +8%YoY ตามลำดับ