นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ยืนยันว่า บริษัทมีความพร้อมยื่นซองประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มูลค่ากว่า 1.42 แสนล้านบาทในวันนี้ (27 ก.ค. 65) แม้จะยอมรับว่าไม่มั่นใจว่าบริษัทจะมีโอกาสได้รับการคัดเลือกหรือไม่ เพราะเงื่อนไขการประมูลใน TOR แตกต่างจากหลักการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติไว้
"BTS มีความพร้อมในการลงทุน แต่ก็ต้องเป็นไปตามกติกาที่ออกมา ซึ่งที่ผ่านมา TOR ออกมาค่อนข้างผิดแปลกจากมติครม. ซึ่งผมเองก็ไม้รู้ว่าเกิดจากอะไร เราก็มีการส่งจดหมายให้กระทรวงคมนาคมและท่านายกฯ ให้ช่วยเข้ามาแก้ปัญหานี้ แต่เราก็ยอมรับในกติกาและพร้อมที่จะลงทุน แม้เราจะไม่รู้ว่าผลออกมาว่าเราได้หรือไม่ได้ก็ตาม ก็ค่อยว่ากันอีกที" นายคีรี กล่าว
ที่ผ่านมาบริษัทได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าบริษัทเป็นผู้ที่ลงทุนและให้บริการระบบชนส่งมวลชนรถไฟฟ้าที่มีความเชี่ยวชาญ มีศักยภาพ และมีการบริหารจัดการที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง โดย BTS ได้มีการลงทุนระบบขนส่งมวลชนที่เป็นรถไฟฟ้าไปแล้วรวมมูลค่ากว่า 1.2 แสนล้านบาท ในสายสีเขียว สีเหลืองและสีชมพู ระยะทางรวมกว่า 140 กิโลเมตร (ไม่รวมสายสีทอง 2 กิโลเมตร) รวมถึงมีการร่วมลงทุนในการพัฒนาศูนย์การบินอู่ตะเภา ด้วยเงินลงทุนรวมกว่า 5 แสนล้านบาท
นายคีรี ยังกล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นสัมปทานสายสีเขียวนั้น BTS อยู่ในฐานะเจ้าหนี้ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) และต้องการให้ กทม.ชำระคืนหนี้ เพราะตามสัญญาสัมปทานบริษัทจะต้องได้รับจ้างจากเดินรถและการบำรุงรักษา (O&M) ของการให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งเป็นสิ่งที่ BTS มีการเรียกร้องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและนายกรัฐมนตรีให้เข้ามาช่วยเหลือแก้ปัญหาดังกล่าวที่ยาวนานมากว่า 5 ปี
ทั้งนี้ BTS ยืนยันว่าหาก กทม.เปิดเผยสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ก็อยากให้ทุกหน่วนงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการรถไฟฟ้าสายอื่นๆเปิดเผยสัญญาทุกสัมปทานออกมาด้วยเช่นกัน เพราะบริษัทต้องการให้เกิดความเท่าเทียมในการที่ทุกคนจะได้รับทราบข้อมูลสัญญาทุกโครงการ และ BTS ยังพร้อมเดินหน้าเจรจากับทาง กทม.อย่างต่อเนื่อง เพื่อหาทางออกร่วมกัน
"หลังจากคุยกับ กทม.มารอบแรกก็มีความเข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ก็ยังให้ท่านผู้ว่าฯกทม.ใช้เวลาในการทำงานก่อน แต่ก็ขอบคุณท่านที่พยายามช่วยกันหาแนวทางในการแก้ปัญหานี้ และไม่ให้กระทบต่อประชาชน ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็มาเจรจาพูดคุยกันอีกที เราเองตอนนี้ไม่ใช่ผู้ร้ายเหมือนที่หลายๆคนมองกัน เราเป็นเจ้าหนี้ ต้องการเพียงให้คุณจ่ายเงินให้เรา และผมเองก็ไม่เคยไปเรียกร้องในการต่อสัมปทาน สัญญาที่เกิดขึ้นทำมาเป็น 10 ปีแล้ว แต่วันนี้กลับมามีข้อสงสัย ซึ่งผมก็ยินดีที่จะเปิดเผยความโปร่งใส ถ้าจะเปิดก็เปิดทุกสัญญาที่มีกับเอกชน ให้ทุกคนรู้ว่าสัญญาร่วมทุนกับทุกรายมีเงื่อนไขเป็นอย่างไร จะได้เกิดความเท่าเทียมกับทุกฝ่าย" นายคีรี กล่าว