ขณะเดียวกันบริษัทยังคงเดินหน้าลงทุนพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี รวมถึงการลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพที่บริษัทเล็งเห็นถึงศักยภาพ และเป็นประโยชน์ต่อสังคมในระยะกลาง-ยาว อย่างต่อเนื่อง ด้วยเงินลงทุนในช่วง 5 ปีนี้ที่จะใช้กว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยจะเน้นการลงทุนในเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ AI, ระบบ Automation และ Web 3.0 ซึ่งเกี่ยวข้องกับ NFT Metaverse และ Token ที่เป็นการออก ICO ที่จะเป็น 3 แกนหลักในการลงทุนของ KBTG ตั้งแต่ในช่วง 3-5 ปีนี้
การลงทุนในเทคโนโลยี นวัตกรรม และสตาร์ทอัพ นั้นทาง KX จะเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่จะเข้ามาช่วยมองหาโอกาสในการลงทุนในสตาร์ทอัพที่น่าสนใจ และสามารถนำเทคโนโลยี นวัตกรรม สละองค์ความรู้ จากสตาร์ทอัพนั้นมาต่อยอดเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการบริการของ KBTG เพื่อนำออกมาใช้ได้จริง ซึ่งมีการจัดตั้ง Venture Capital ภายใต้ชื่อ KX Endless Capital ที่จะเข้ามาลงทุนในเรื่องดังกล่าว โดยในเร็วๆนี้จะมีการเปิดเผยการลงทุนในสตาร์ทอัพล็อตแรกออกมา
ในปีนี้จะมีการเข้าลงทุนในสตาร์ทอัพทั้งในไทยและต่างประเทศที่น่าสนใจ และเห็นโอกาสถึงการนำมาใช้ต่อยอดเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการให้บริการต่างๆของ KBTG ได้ราว 4 ดีล และยังเปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพไทยที่อยากนำเสนอเทคโนโลยี และนวัตกรรมของตนเอง สามารถเข้ามานำเสนอกับ KBTG ได้โดยตรงด้วยเช่นกัน
"เรามองว่าโอกาสนี้เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้เข้าไปลงทุนอย่างเต็มที่ และได้ของที่เป็นครีมๆออกมาจริงๆ ท่ามกลางภาวะ Crypto winter และสตาร์ทอัพต่างๆที่เริ่มได้รับผลกระทบจากวิกฤตที่เกิดขึ้น เพราะเราเชื่อว่าจากทุกวิกฤตที่ผ่านมา ล้วนคัดเลือกเฉพาะผู้ที่มีศักยภาพที่จะเกิดขึ้นมาได้ และเป็นการลงทุนในช่วงที่มีความคุ้มค่า และได้ของดีมาจริงๆ เพราะสิ่งที่เราเน้นการลงทุนในเทคโนโลยี และนวัตกรรม ที่สร้างประโยชน์ในระยะกลาง ระยะยาวเป็นหลักในการคัดเลือกสิ่งที่เราจะลงทุน" นายเรืองโรจน์ กล่าว
ด้านแพลตฟอร์มด้านสินทรัพย์ดิจิทัล Kubix หลังจากที่ได้ออก ICO Destiny Token จากภาพยนตร์บุพเพสันนิวาส ๒ ไปแล้ว และได้รับผตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี ยังคงมีการเจรจาในการทำดีล ICO กับพันธมิตรที่มีความสนใจในการระดมทุน เพื่อนำเงินไปต่อยอดธุรกิจ หรือนำมาใช้ใน Ecosystem ของธุรกิจนั้นๆ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาและร่วมทำงานกับพันธมิตรที่สนไจออก ICO ที่อยู่ในธุรกิจที่เกี่นวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Consumer product และธุรกิจที่เป็น New S curve ที่จะมีการทยอยเห็นความชัดเจนออกมา
นอกจากนี้ยังมีแผนการขยายแพลตฟอร์ม Kubix ในการเปิดโอกาสให้นักลงทุนที่เป็นกลุ่มธุรกิจ และนักลงทุนต่างชาติ สามารถเข้ามาลงทุนได้ในอนาคต จากปัจจุบันที่ผู้ลงทุนยังอยู่ไนนักลงทุนชาวไทย และการนำ Token ที่ออก ICO เข้าไปซื้อขายในตลาดรองได้ ซึ่งจะเป็นการพัฒนาระบบของ Kubix ต่อไป เพื่อให้แพลตฟอร์ม Kubix มีความครอบคลุม สละครบวงจรมากขึ้น