นายพิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ (APCO) เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจช่วงครึ่งปีหลัง 2565 ยอดขายทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์มีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยเฉพาะนวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัด ผลิตภัณฑ์ดูแลผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS และนวัตกรรมวัฒนชีวา โดยในปี 2565 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% รักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 80%
ทั้งนี้ นวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดช่วยผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS มียอดจำหน่ายที่เพิ่มมากขึ้นจากเดิม หลังจากมีผู้ใช้ผลิตภัณฑ์แล้วตรวจไม่พบเชื้อ ไม่ต้องใช้ยาต้านไวรัส และมีสุขภาพแข็งแรงต่อเนื่อง หรือมีภาวะ HIV หมดฤทธิ์ (Functional Cure) เป็นครั้งแรกของโลก อีกทั้งบริษัทได้เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมนี้อย่างต่อเนื่อง โดยจะเปิดตัวผู้ที่ปลอดเชื้อแล้วต่อสาธารณชน และจัดให้เป็นผู้แนะนำการใช้นวัตกรรมนี้
ขณะที่นวัตกรรมวัฒนชีวา ผลิตภัณฑ์ย้อนวัย/ชะลอวัย และนวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดกระตุ้นเซลล์ทีพิฆาต (Killer T Cell) ได้รับความสนใจจากนานาประเทศมากขึ้น ปัจจุบันบริษัทลงนามสัญญาแต่งตั้งผู้แทนจำหน่ายกว่า 10 ประเทศ ได่แก่ สิงค์โปร์ มาเลเซีย อินโนนีเซีย ฟิลิปปินส์ ซาอุดิอาระเบีย คูเวต การ์ต้า บาห์เรน โอมาน และยูเออี และอยู่ระหว่างเจรจาเพิ่มอีกหลายราย ถือเป็นโอกาสและช่องทางในการขยายตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รวมถึงการยกระดับนวัตกรรมให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก
ด้านความร่วมมือกับพันธมิตรจากประเทศจีน เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากมาตรการสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศจีนเริ่มคลี่คลาย ซึ่งคาดว่าจะสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์นวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดได้อีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง นอกจากนี้พันธมิตรจีนได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลชั้นนำให้ผู้ป่วยได้ใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวของ APCO อีกด้วย คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ในช่วงครึ่งปีหลังเช่นเดียวกัน
ส่วนบริษัทย่อย Killer T Cell for Pets พัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง ด้วยประสิทธิภาพที่สามารถรักษามะเร็ง รวมถึงรักษาไวรัส FIV และ FeLV ในแมวให้หายได้เป็นครั้งแรก โดย APCO ได้ทดสอบผลิตภัณฑ์ และได้รับการรับรองจากคณะสัตวแพทย์ในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ขณะนี้ได้จำหน่ายเข้าไปในโรงพยาบาลสัตว์ขนาดใหญ่ทุกแห่ง คาดว่าจะมียอดขายที่เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
"ภาพรวมตลาดครึ่งปีหลังปรับตัวดีขึ้น หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศเริ่มคลี่คลาย มีการผ่อนคลายกฎระเบียบต่างๆ ให้ธุรกิจเริ่มเปิดดำเนินการได้เป็นปกติ กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีความคึกคักมากขึ้น ส่งผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคให้มีการใช้จ่ายมากขึ้น" นายพิเชษฐ์ กล่าว
บริษัทยังคงมุ่งเน้นการสื่อสารให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ผ่านช่องทางหลักได้แก่ FB Page ดร.พิเชษฐ์ : https://www.facebook.com/Dr.Pichaet และ Youtube Dr.Pichaet LIVE : https://www.youtube.com/drpichaetlive รวมถึงการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เรื่องสุขภาพและข้อมูลผลิตภัณฑ์ต่างๆ ผ่าน FB Page LEARN HIV : https://www.facebook.com/LEARNeHIV , FB Page ภูมิสมดุล BIM : https://www.facebook.com/Hotline1154 และ FB Page สังคมชีวี100ปีมีสุข ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถช่วยผู้มีปัญหาได้ในวงกว้างมากขึ้น