SET ปิดเช้าที่ 1,589.11 จุด เพิ่มขึ้น 12.70 จุด (+0.81%) มูลค่าการซื้อขายราว 44,360 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยเช้าปรับขึ้นรับปัจจัยจิตวิทยาเชิงบวกหลังเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยตามคาด และมีแรงซื้อพันธบัตรสหรัฐส่งผลให้ Bond Yield ปรับลง รวมทั้งตลาดมองเงินเฟ้อสหรัฐใกล้จุดพีคเชื่อเฟดไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ยมากแล้ว หนุนกลุ่มเทคโนโลยีฟื้นตัวแรงส่งผลมาถึงกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์บ้านเราขึ้นตาม แนวโน้มตลาดช่วงบ่ายน่าจะยืนแดนบวกได้ ให้แนวต้าน 1,595 จุด แนวรับ 1,570-1,560 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ ปิดช่วงเช้าที่ 1,589.11 จุด เพิ่มขึ้น 12.70 จุด (+0.81%) มูลค่าการซื้อขายราว 44,360 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวขึ้น ทำระดับสูงสุด 1,590.43 จุด และต่ำสุด 1,581.23 จุด
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยเช้านี้ฟื้นตัวตอบรับจิตวิทยาเชิงบวกภาพรวมการลงทุน หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับนโยบายการเงิน และปรับขึ้นดอกเบี้ยตามคาด ไม่ได้มี negative surprise นอกจากนี้ ยังมีแรงซื้อพันธบัตรต่อเนื่องทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ อายุ 10 ปี (Bond Yield) ปรับลง
ขณะที่ตลาดมองว่าภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐใกล้จุดพีคแล้ว จึงเชื่อว่าเฟดจะไม่ต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยแรง ทำให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดหุ้นสหรัฐฟื้นตัว โดยเฉพาะหุ้นแอปเปิ้ล ส่งผลมาถึงกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีในตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นตาม อาทิ DELTA KCE BE8 BBIK รวมถึงกลุ่ม JMART ขณะที่หุ้นกลุ่ม Value ที่อิงวัฎจักรเศรษฐกิจ ปรับตัวลง อาทิ กลุ่มแบงก์
แนวโน้มตลาดหุ้นในช่วงบ่าย นายกรภัทร กล่าวว่า ตลาดน่าจะยืนในแดนบวกได้ พร้อมให้แนวต้านที่ 1,595 จุด แนวรับที่ 1,570-1,560 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 3,508.66 ล้านบาท ปิดที่ 510.00 บาท เพิ่มขึ้น 36.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,119.77 ล้านบาท ปิดที่ 144.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,109.04 ล้านบาท ปิดที่ 59.75 บาท ลดลง 1.50 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,754.40 ล้านบาท ปิดที่ 364.00 บาท ลดลง 9.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,661.72 ล้านบาท ปิดที่ 162.00 บาท ลดลง 0.50 บาท