ทั้งนี้ ศาลพิจารณาจากคำร้องของ บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) แล้ว เห็นว่าการคัดเลือกเอกชนเข้าดำเนินการตามประกาศเชิญชวนดังกล่าวน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมายหากยังคงให้มีการลงนามในสัญญาในครั้งนี้จะทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขแก้ผู้ฟ้องคดีในภายหลัง เนื่องจากหากต่อมาภายหลังศาลปกครองมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้เพิกถอนประกาศเชิญชวนครั้งที่ 2 ก็จะมีผลกระทบไปถึงการบิหารจัดการโครงการพิพาท ซึ่งเป็นทรัพย์สินของผู้ฟ้องคดีบางส่วน ได้แก่ ระบบท่อน้ำ ซึ่งอาจต้องมีการโอนทรัพย์สินดังกล่าวกลับคืนมาให้แก่ผู้ฟ้องคดี ซึ่งจะกระทบต่อความเชื่อมั่นมใกนรพัฒนาระบบสาธารณูปฏโภคตามโครงการพิพาท
นอกจากนั้น ข้อเท็จจริงยังปรากฎว่า ปัจจุบัน EATW ยังคงดำเนินการตามสัญญาที่มีต่อกรมธนารักษ์ในโครงการท่อส่งน้ำดอกกราย กำหนดระยะเวลา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.37-31 ธ.ค.66 และโครงการท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-หนองค้อ และโครงการท่อส่งน้ำหนองค้อ-แหลมฉบัง (ระยะที่ 2) ซึ่งกรมธนารักษ์ได้ส่งมอบทรัพย์สินให้ EASTW บริหารในวันที่ 30 ต.ค.40 และวันที่ 9 ต.ค.41 ตามลำดับ ขณะที่ EASTW ยังคงบริหารโครงการดังกล่าวเพื่อให้บริการสาธารณะต่อประชาชนไปได้อย่างต่อเนื่อง
คดีดังกล่าวสืบเนื่องจาก EASTW ยื่นฟ้องกรมธนารักษ์ หลังจากมีการยกเลิกการกระบวนการคักเลือกเอกชนเข้ามาดำเนินโครงการในรอบแรก และออกประกาศเชิญชวนเอกชนเข้ามารับการคัดเลือกฉบับใหม่วันที่ 10 ก.ย.64 โดย EASTW เห็นว่าขั้นตอนไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเนื้อหาในประกาศเชิญชวนฉบับใหม่มีเนื้อหาไม่สอดคล้องกับเนื้อหาของประกาศฉบับเดิม และไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่รัฐ โดยเฉพาะการกำหนดคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอที่ด้อยลงจากเดิม ไม่ได้เปิดโอกาสให้ซักถามและไม่มีการชี้แจง จึงขอให้ศาลฯสั่งเพิกถอนมติยกเลิกการคัดเลือกเอกชนในรอบแรก และเพิกถอนประกาศเชิญชวนเอกชนฯ ในฉบับที่ 2 รวมถึงผลการคัดเลือก
ทั้งนี้ กรมธนารักษ์ ได้แจ้งเลื่อนกำหนดเซ็นสัญญากับ บริษัท วงษ์สยาม จำกัด ในวันนี้แล้ว