บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ว่า จากประเด็นนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า สถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยในช่วง 7 เดือนแรกของปี 65 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 ก.ค.65 จำนวน สะสม 3,334,326 คน
ทั้งนี้ จากสถิติเฉพาะเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีการยกเลิกระบบ Thailand Pass พบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้นเป็น 33,000-49,000 คนต่อวัน รวมตลอดเดือน ก.ค.มีจำนวน 1,210,000 คน เพิ่มขึ้น 53.5% เมื่อเทียบกับ เดือน มิ.ย.ที่มีจำนวน 788,258 คน จากการประเมินแนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติล่าสุด ททท.ยังคงเป้าหมายดึง นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยตลอดปี 65 ไว้ที่ 10 ล้านคน
KTBST มีมุมมองเป็นบวกต่อจำนวนนักท่องเที่ยวในเดือน ก.ค.65 ที่ระดับ 1.2 ล้านคน ถือว่ามีแนวโน้มที่ฟื้นตัวได้เร็วกว่าคาด (เดิมคาดแตะเดือนละ 1 ล้านคนในไตรมาส 4/65) ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวใน 7 เดือนแรกของปี 65 อยู่ที่ 3.3 ล้านคน มากกว่าเราคาดที่ 2.8 ล้านคน ทำให้มีโอกาสเป็น upside เพิ่มจากประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวของเราในปี 65 ที่ 6 ล้านคน โดยอาจจะเห็น 8-10 ล้านคนได้
สำหรับหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากมาก-น้อยเรียงตามสัดส่วนรายได้ในประเทศไทยจากมาก-น้อยคือ ERW (88%), CENTEL (80%), MINT (15%) และ SHR (5%)
กลุ่ม Tourism ยังให้น้ำหนักลงทุนเป็น "มากกว่าตลาด" ชอบ MINT, AOT ให้น้ำหนัก "มากกว่าตลาด" จากประเด็นนี้ ERW (ซื้อ/เป้า 4.40 บาท) และ CENTEL (ซื้อ/เป้า 50.00 บาท) จะได้ sentiment เชิงบวกมากสุด ขณะที่ชอบ MINT (ซื้อ/เป้า 44.00 บาท) เพราะคาดไตรมาส 2-4 ปี 65 จะพลิกกลับมาเป็นกำไรทุกไตรมาสและจะเติบโตเด่นเหนือกลุ่ม ส่วน AOT (ซื้อ/เป้า 76.00 บาท) ได้ประโยชน์โดยตรงจากจำนวนนักท่องเที่ยวฟื้นตัว
นอกเหนือจากกลุ่ม Tourism เรามองว่าปัจจัยดังกล่าวจะเป็นบวกต่อ BAFS (ซื้อ/เป้า 35.00 บาท) เช่นกัน ซึ่งได้อานิสงส์จากปริมาณเที่ยวบินและบริการเติมน้ำมันอากาศยานเพิ่มขึ้น