PTTEP บวก 1.57% หรือเพิ่มขึ้น 2.50 บาท มาที่ 161.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 751.10 ล้านบาท จากราคาเปิด 160.00 บาท ราคาสูงสุด 163.00 บาท ราคาต่ำสุด 159.50 บาท
นายเบญจพล สุทธิ์วนิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย เวลท์ กล่าวว่า ราคาหุ้นของบมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ที่ปรับตัวขึ้น คาดนักลงทุนน่าจะเก็งผลการประชุมการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัสในวันนี้ (3 ส.ค.) โดยที่ประชุมจะพิจารณานโยบายการผลิตสำหรับเดือนก.ย. หลังจากมีมติเพิ่มกำลังการผลิต 648,000 บาร์เรล/วัน ในเดือนส.ค. ซึ่งตลาดคาดกลุ่มโอเปกพลัสจะไม่เพิ่มกำลังการผลิต หรือคงแผนเดิม ส่งผลทำให้ซัพพลายตึงตัว เนื่องจากมองว่าดีมานด์น่าจะชะลอตัวในช่วงปลายปีนี้ จนถึงต้นปีหน้า หลังฟื้นตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก จากการปลดล็อกดาวน์ของหลายๆ ประเทศในช่วงไตรมาส 2/65 และไตรมาส 3/65 ขณะที่ไตรมาส 4/65 น่าจะกลับเข้าสู่ระดับปกติ อีกทั้งยังมองว่ายุโรป จะเริ่มเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปลายปีนี้ด้วย
ทั้งนี้มองทิศทางราคาน้ำมันดิบ แม้จะปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ไปแล้วที่ 130 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในไตรมาส 2/65 แต่จะยังอยู่ในระดับสูง หรือเฉลี่ย 100-110 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ส่งผลดีต่อผลประกอบการของ PTTEP ยังมีอัพไซต์ โดย PTTEP มีสัดส่วนการขายน้ำมันที่ 30% ของรายได้รวม อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากราคาขายก๊าซฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้น จากผลของราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่ม (มี Lag-time ประมาณ 6-18 เดือน) ทำให้ครึ่งปีหลังนี้จะรับรู้เข้ามาเต็มที่
นอกจากนี้คาดปริมาณการขายปิโตรเลียมในครึ่งปีหลังนี้จะเติบโตต่อเนื่อง จากโครงการ G1/61 (แหล่งเอราวัณ) และ G2/61 (แหล่งบงกช) และแหล่งอาทิตย์ รวมถึงโครงการในประเทศโอมาน แปลง 61, โครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ
แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 190 บาท