นายแจ็คกี้ ชาง ประธานกรรมการบริษัท บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ DELTA เปิดเผยว่า ทิศทางผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังยังคงต้องมีความระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง จากความไม่แน่นอนในหลายๆส่วนที่บริษัทยังคงมีความกังวลอยู่ โดยเฉพาะในส่วนของสถานการณ์วัตถุดิบแม้ว่าภาพรวมจะมีสถานการณ์ที่ผ่อนคลายขึ้น แต่อย่างไรก็ตามยังคงมีการขาดแคลนในส่วนของ Component it chipset ที่จะเข้ามากระทบในส่วนของกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV)
"ด้วยสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเราจึงยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และก็ยังไม่สามารถที่จะยืนยันได้ว่าผลประกอบการจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งเหมือนช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา"นายแจ็คกี้ กล่าว
แต่อย่างไรก็ตามริษัทยังคงเดินหน้าเพื่อที่จะบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะลดค่าใช้จ่ายทางด้านแรงงานลงเหลือ 3-4% จากปัจจุบันอยู่ที่ 5% ด้วยการลงทุนพัฒนารูปแบบ Smart Manufacturing คือ การนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาเชื่อมโยงการทำงานเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็วและแม่นยำ
สำหรับภาพรวมรายได้ทั้งปี 65 บริษัทยังคงมั่นใจว่าจะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 84,814.62 ล้านบาท โดยปัจจุบันกลุ่มสินค้าของบริษัทยังมีความต้องการค่อนข้างมาก แต่อย่างไรก็ตามยังคงต้องมีการบริหารจัดการวัตถุดิบอย่างดีเพื่อที่จะให้แผนการผลิตเป็นไปได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ด้วย
นายแจ็คกี้ กล่าวถึง กรณีการเยือนไต้หวันในครั้งนี้ของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาคองเกรสสหรัฐฯ ว่าไม่สามารถให้ความเห็นทางด้านการเมืองได้ แต่อย่างไรก็ตามบริษัทจะมีคามพยายามอย่างที่สุดเพื่อที่จะบริหารจัดการเรื่องของประเด็นความเสี่ยงต่างๆ เพื่อที่จะคงผลตอบแทนและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นทุกท่าน