ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กข้อมูลศก.สหรัฐอ่อนแอ กดดาวโจนส์ปิดลบ 16.04 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 26, 2008 06:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (25 มี.ค.) หลังจากทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อ 2 วันทำการที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนแอของสหรัฐ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลดลง 16.04 จุด หรือ 0.13% แตะระดับ 12,532.60 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดขยับลง 3.11 จุด หรือ 0.23% แตะระดับ 1,352.99 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดรูดลง 14.30 จุด หรือ 0.61% แตะระดับ 2,341.05 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.48 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.12 พันล้านหุ้น
ท้อด ลีออง นักวิเคราะห์จากบริษัทโคเวน แอนด์ โค กล่าวว่า "ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยลบจากรายงานของสำนักงานคอนเฟอเรนสซ์ บอร์ด ที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐเดือนมี.ค.ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีที่ 64.5 จุด จากเดือนก.พ.ที่ 76.4 จุด และดัชนีราคาบ้านซึ่งจัดทำโดย Standard & Poor's/Case-Shiller บ่งชี้ว่า ราคาบ้านในสหรัฐร่วงลง 11.4% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงหนักสุดนับตั้งแต่มีการรวบรวมข้อมูลครั้งแรกในปี 2530"
"วอลุ่มการซื้อขายมีอยู่บางเบามาก เนื่องจากนักลงทุนลังเลที่จะเข้าลงทุนล็อตใหญ่ๆในขณะที่ตลาดยังไร้ทิศทางเช่นนี้ นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายยังคงผันผวนเนื่องจากตลาดยังถูกปกคลุมด้วยความกังวลเรื่องปัญหาในตลาดสินเชื่อ" ลีอองกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างวันนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นขานรับข่าวที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กเตรียมจัดหาวงเงินสินเชื่อมูลค่า 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนเจ.พี.มอร์แกน เชส แอนด์ โคในการซื้อกิจการแบร์ สเติร์นส์ และจะจัดตั้งบริษัทเพื่อกำกับดูแลทรัพย์สินที่นำมาเป็นหลักประกัน โดยเจ.พี.มอร์แกน เชสจะแบกรับผลขาดทุนเริ่มแรก 1 พันล้านดอลลาร์ของผลขาดทุนใดๆที่เกี่ยวกับพอร์ทดังกล่าว และผลกำไรที่เพิ่มขึ้นจะเป็นของเฟดสาขานิวยอร์ก
ทั้งนี้ หุ้นเจพีมอร์แกน ร่วงลง 49 เซนต์ ปิดที่ 46.06 ดอลลาร์ ขณะที่หุ้นแบร์ สเติร์นส์ดิ่งลง 2.8% หุ้นมอนซานโต้พุ่งขึ้น 9.9% หลังจากบริษัทมอนซานโต้ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตรเปิดเผยว่า กำไรต่อหุ้นรายไตรมาสมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
หุ้นยาฮูพุ่งขึ้น 4.4% จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าบริษัทไมโครซอฟท์จะเพิ่มข้อเสนอซื้อหุ้นในยาฮูที่เหนือระดับ 31 ดอลลาร์/หุ้น แต่การคาดการณ์ดังกล่าวทำให้หุ้นไมโครซอฟท์ดิ่งลง 3 เซนต์ ปิดที่ 29.14 ดอลลาร์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ