บล. โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังแกว่งตัว Sideway ในกรอบ 1,570-1,620 จุดจับตาประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) กลางสัปดาห์ มีลุ้นขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในรอบ 2 ปีจากระดับเดิม 0.5% และสถานการณ์เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยหลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐออกมาแข็งแกร่ง แนะกลยุทธ์ลงทุนหุ้นแบงก์ใหญ่ KBANK-BBL?KTB-SCB-TISCO
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ยังแกว่งตัวผันผวนในลักษณะ Sideway โดยนักลงทุนจับตาการประชุม กนง.กลางสัปดาห์นี้ ประเมินทิศทางดอกเบี้ยและเศรษฐกิจในประเทศ
รวมทั้งรายงานตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่ง โดยเฉพาะการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 528,000 ตำแหน่งในเดือน ก.ค. สูงกว่า 2 เท่าจากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 258,000 ตำแหน่ง และอัตราว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.5% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.6% ทำให้นักลงทุนวิตกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยต้องจับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่จะประกาศในสัปดาห์นี้
นอกจากนั้น ยังคงต้องจับตาสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างจีนและไต้หวัน หลังจากจีนยังซ้อมรบรอบเกาะไต้หวัน ขณะที่เรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส โรนัลด์ เรแกน (USS Ronald Reagan) และกองเรือคุ้มกันของสหรัฐยังคงประจำการอยู่ในทะเลจีนใต้นานกว่าที่วางแผนไว้ในตอนแรก
พร้อมทั้งสถานการณ์ในประเทศ ซึ่งทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เฝ้าติดตามสถานการณ์ขาดแคลนชิปส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ หลังจีนงดส่งออกทรายดิบป้อนไต้หวัน ดันราคาชิปพุ่งต้นทุนเพิ่ม
ขณะที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ เดือน ก.ค.65 ดัชนีปรับลดลงมาอยู่ที่ 49.4 จาก 50.5 ในเดือนก่อน ดังนั้น คาดว่าการประชุมกนง.รอบนี้น่าจะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายราว 0.25% เป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 2 ปี จากระดับเดิม 0.5%
รวมถึงการประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 2/65 และ 6 เดือนแรกของปี 65 ซึ่งวันที่ 15 ส.ค.เป็นวันสุดท้ายในการแจ้งงบ
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์สำหรับการลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารที่คาดว่าได้ประโยชน์จากธปท.เลิกเพดานจ่ายปันผลและทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น พร้อมจับตาการประชุม กนง. ในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ ขณะที่สำนักวิจัยหลายแห่งล้วนคาดการณ์ว่าจะเห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% จึงแนะนำสะสมหุ้นแบงก์ขนาดใหญ่ได้ แก่ KBANK BBL KTB SCB และ TISCO
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย GBS กล่าวว่า ยังคงต้องจับตาการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.ค.ของสหรัฐ เนื่องจากราคาน้ำดิบปรับตัวลดลงต่ำกว่า 90 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล อาจปรับเงินเฟ้อเริ่มอ่อนตัวลง ซึ่งจะเป็นแรงหนุนต่อตลาด ขณะที่มุมมองจากประธานเฟด สาขาชิคาโกชี้เศรษฐกิจสหรัฐสามารถรอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยได้และผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว เนื่องจากตัวเลขภาคแรงงานและผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทในสหรัฐส่วนใหญ่ออกมาแข็งแกร่ง ทำให้มีแรงซื้อกลับตลาดจึงรีบาวด์ขึ้น
ดังนั้น ฝ่ายวิจัยประเมินว่าราคาทองคำมีแนวโน้ม Sideway Up เนื่องจากตอบรับข่าวการปรับขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว ขณะที่แรงหนุนจากความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐยังคงอยู่ อาจทำให้ราคาทองคำซื้อขายในกรอบ 1,750-1,830 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ หากไม่หลุดแนวรับทยอยเข้าซื้อสะสม