นายนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ (SCM) เชื่อว่า ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 65 ภาพรวมการลงทุนทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อมีการฟื้นตัวจากโมเมนตัม (Momentum) ที่ดีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ เร็วๆ นี้ บริษัทฯ เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ (New Product) และผลิตภัณฑ์ทดแทน (Product Replacement) อย่างต่อเนื่อง อาทิ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นสารกำจัดวัชพืชและเพิ่มฮอร์โมนพืช ภายใต้แบรนด์ "Growing More", ครีมบำรุงผิวหน้า Brightening ภายใต้แบรนด์ "S Mone", ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อการนอนหลับ ภายใต้แบรนด์ "Nutrinal" เป็นต้น
"ครึ่งปีหลังบริษัทฯ มองว่า ปัจจัยดังกล่าวจะทำให้ตลาดในอุตสาหกรรมนี้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นที่ต้องการของกลุ่มคนที่มองหาอิสระในการทำงาน และมีรายได้อย่างมั่นคง ซึ่งด้วย SCM เรามี Product ที่กระจายไปหลายกลุ่ม จึงเป็นการลดความเสี่ยงได้ดี เช่น ปุ๋ย และการขยายกลุ่มลูกค้าไปที่กลุ่มเพื่อสุขภาพ (Wellness) ที่เน้นการชะลอวัย (Anti-Aging) มากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯเตรียมเจาะตลาดไปยัง ประเทศฟิลลิปปินส์ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างเตรียมสาขาและ Product โครงสร้างราคา รวมถึงกลยุทธ์ที่ผนึกกำลังเหล่านักธุรกิจผู้นำซัคเซสมอร์ สร้างแรงขับเคลื่อน The power of one เป็นการนำระบบมาพัฒนาคนต่อคนเพื่อให้เกิดคุณภาพสูงสุด" นายนพกฤษฏิ์ กล่าว
ทั้งนี้ จากแผนกลยุทธ์ดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทฯ ยังคงตอกย้ำอัตราเติบโตของรายได้ในปี 65 ว่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 20% ภายใต้กลยุทธ์หลักๆ ประกอบด้วย
1.ขยายเพิ่มฐานสมาชิก ซึ่ง ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 บริษัทฯ มีจำนวนสมาชิกรวม 180,000 ราย
2.เจาะขยายตลาดเกษตรกรและตลาด Silver Age
3.ขยายดีลเลอร์ต่างประเทศ
4.พัฒนายกระดับความแข็งแกร่งของทีมขยายเครือข่าย
ส่วนความคืบหน้า "ธุรกิจลิสซิ่ง" ภายใต้ชื่อ "บริษัท จัดให้ ลิสซิ่ง จำกัด" นั้น นายนพกฤษฏิ์ กล่าวว่า จะสามารถเริ่มดำเนินการในเชิงพาณิชย์ภายในเดือน ส.ค.นี้ โดยในเฟส 1 จะสามารถปล่อยสินเชื่อได้จริงในช่วงเดือน ก.ย. พร้อมตั้งเป้าหมายเบื้องต้นว่าภายในสิ้นปี 65 จะมีพอร์ต (Port) สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ประมาณ 50 ล้านบาท
"การลงทุนใน "ธุรกิจลิสซิ่ง"ครั้งนี้ ถือเป็นการแตกไลน์ธุรกิจใหม่ของ SCM โดยมองว่าธุรกิจดังกล่าวจะสามารถรองรับความต้องการของกลุ่มสมาชิก MLM ที่มีอยู่กว่าแสนรายในขณะนี้ได้เป็นอย่างดี"นายนพกฤษฎิ์ กล่าว
ด้าน น.พ.สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ ประธานกรรมการบริหาร SCM กล่าวถึงผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/65 บริษัทฯ มีรายได้รวมจากการขายสินค้าและการบริการที่ 287.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้น 7% จากไตรมาสก่อน (QoQ) และมีกำไรสุทธิ 56.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้น 55% จากไตรมาสก่อน (QoQ)
ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 65 บริษัทมีรายได้รวมจากการขายสินค้าและการบริการที่ 556.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.2 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ที่มีรายได้จากการขายสินค้าและการบริการ 529.6 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 92.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.8 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ที่มีกำไรสุทธิ 88.6 ล้านบาท
สาเหตุที่ยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากกลุ่มสินค้าเพื่อการเกษตร เนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อการเกษตรของบริษัทให้การยอมรับและบอกต่อในตัวผลิตภัณฑ์มากขึ้น ประกอบกับภาวะราคาปุ๋ยที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้สินค้าเพื่อการเกษตรของบริษัทสามารถเข้าทำตลาดและได้รับความสนใจจากลูกค้ามากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ สามารถจัดกิจกรรมทางการตลาดในรูปแบบออนไลน์ ที่มีประสิทธิภาพ และสามารถกระตุ้นการบริโภคของลูกค้าที่สนใจในสินค้าของบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี จึงส่งผลให้รายได้จากการขายเพิ่มขึ้น
"ภาพรวมผลดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/65 และ ครึ่งปีแรก ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดย ผลิตภัณฑ์ที่ติด Top 10 ขายดีที่สุด ได้แก่ 1. S Vera Plus เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องดื่มน้ำว่านหางจระเข้ ผสมสารสกัดจากโกจิเบอร์รี่, 2. S.O.D More เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต้านอนุมูลอิสระที่เหนือกว่าสารต้านอนุมูลอิสระทั่วไป, 3. Phytovy เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ล้างสารพิษในลำไส้, 4. Transform Plus เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารพืช กระตุ้นการเจริญเติบโต เร่งต้น เร่งราก, 5. Brazillian Arabica Coffee เป็นผลิตภัณฑ์กาแฟ บราซิลเลี่ยน อาราบิก้า ผสมคอลลาเจนและใยอาหาร, 6. ยาสีฟัน Benfite, 7. Nutriga เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ต่อต้านความเสื่อมของเซลล์, 8. Mores Collagen ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม สารสกัดคอลลาเจนจากปลาทะล 10,000 มิลลิกรัม, 9. Click Plus อาหารสำหรับสุภาพสตรี ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนเพศในร่างกายให้ทำงานปกติ, 10. S Vera Gel เป็นเจลว่านหางจระเข้ รักษาสิวลดเลือนริ้วรอย ซึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์เหล่านี้ เป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างยอดขายให้กับ SCM ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา และคาดว่าจะได้รับการตอบรับอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง"