นายนำพล มลิชัย กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอสซีจี เซรามิกส์ (COTTO) เปิดเผยว่า แนวโน้มยอดขายครึ่งปีหลังจะเติบโตสูงกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากปัจจัยหนุนสำคัญคือตลาดส่งออกที่ยังมีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดกลุ่ม CLMV ที่เห็นสัญญาณของการฟื้นตัวของยอดขายกลับมาชัดเจน แม้ว่าศรษฐกิจจะยังมีความผันผวนอยู่บ้างก็ตาม โดยคาดว่ายอดขายตลาดส่งออกในครึ่งปีหลังจะเติบโตได้มากกว่า 20% ขณะที่ตลาดในประเทศก็ยังเห็นยอดขายเพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ เนื่องจากกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเพิ่งเริ่มทยอยฟื้นตัวกลับมาหลังจากการเปิดประเทศ ทำให้การลงทุนที่เกี่ยวข้องกับโรงแรม ศูนย์การค้า และร้านค่าต่างๆ เพิ่งเริ่มทยอยกลับมา แต่ปัจจัยหนุนหลักในปัจจุบันยังคงมาจากกลุ่มลูกค้ารายย่อยที่ยังคงมีการปรับปรุงและก่อสร้างที่อยู่อาศัย ประกอบกับการขายในโมเดิร์นเทรดที่ช่วยกระจายการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าในการทำการตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ (HVA) ที่ให้มาร์จิ้นที่สูง เช่น กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับสุขภาพและความสะอาด (Health & Hygiene) กลุ่ม Mosaic Collection และกลุ่ม Italia & Espana Collection เป็นต้น โดยวางเป้าหมายจะมีสัดส่วนยอดขายจากกลุ่ม HVA ไม่น้อยกว่า 30-35% ของยอดขายรวม อีกทั้งบริษัทยังให้ความสำคัญในการขยายธุรกิจติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาโรงงาน (Solar Business) อย่างต่อเนื่อง ภายใต้บริษัท SUSUNN Smart Solution ที่มองว่าในช่วงที่ราคาพลังงานผันผวนในระดับสูงและมีความไม่แน่นอนจะทำให้ผู้ประกอบการที่มีต้นทุนพลังงานสูงหันมาใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น โดยที่บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตในส่วนของโซลาร์ไม่น้อยกว่า 10% จากปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ในด้านต้นทุนที่สูงขึ้นยอมรับว่าเป็นแรงกดดันต่ออัตรากำไร (มาร์จิ้น) ของบริษัทอยู่บ้าง แต่บริษัทก็ได้มีการปรับขึ้นราคาขายสินค้าตามต้นทุนที่สูงขึ้นไปบางส่วนแล้ว ตั้งแต่ต้นปีปรับขึ้นราคาขายไปแล้ว 5% แต่ยังช้ากว่าต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้นไปแล้ว 7-8% ดังนั้น ช่วงครึ่งปีหลังจะทยอยปรับเพิ่มราคาขายสินค้าให้ทันตามต้นทุนเพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไรให้อยู่ไนระดับที่ดีและเติบโตได้จากปีก่อน