นายพงศ์พันธุ์ อภิญญากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะผันผวนในลักษณะของการแกว่งตัวทั้งบวก-ลบ อันเนื่องมาจากแรงขายทำกำไรส่วนหนึ่ง อีกส่วนเป็นเรื่องของการเมืองในคดียุบพรรคแต่ก็เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ อาจทำให้ลงได้เล็กน้อยและจะกลับฟื้นตัวขึ้นได้เร็ว
อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังมีปัจจัยบวกจากเม็ดเงินลงทุนทั้งจากกองทุนและต่างชาติยังคงไหลเข้ามาอยู่ และส่วนหนึ่งจากการทำ Window Dressing งวด Q1/51
อีกปัจจัยหนึ่งเป็นเรื่องของความมีเสถียรภาพของตลาดโดยทั่ว ๆ ไป เช่น ตลาดเงินโลก ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมัน ตลาดทอง หรือตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ก็คงจะมีความเหวี่ยงน้อยลง เรื่องอื่นคงเป็นเรื่องการทำ preview ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนเท่าที่ออกมาก็อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี แม้จะมีความกดดันเรื่องเงินเฟ้อ หรือเรื่องการเมือง แต่เรื่องการเติบโตของกำไรยังดี ภาพของตลาดฯจึงน่าจะเป็นบวกได้
พร้อมมองตลาดฯมีโอกาสที่จะขึ้นทดสอบในระดับ 825-830 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(25 มี.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 12,532.60 จุด ลดลง 16.04 จุด(-0.13%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,352.99 จุด เพิ่มขึ้น 3.11 จุด(+0.23%)และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,341.05 จุด เพิ่มขึ้น 14.30 จุด (+0.61%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,133.07 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน พ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 101.22 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.36 ดอลลาร์
- ที่ปรึกษากฎหมาย กกต.นัดหารือกรณีพรรรคชาติไทย-มัชฌิมาฯ ทุจริตเลือกตั้งวันนี้ว่า การกระทำผิดของกรรมการบริหารพรรคจะโยงไปถึงพรรคหรือไม่วันนี้
- รัฐบาลดึง "ธอส." ปล่อยกู้หมื่นล้าน ผู้มีรายได้น้อยไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท ซื้อบ้านหลังแรก 6 แสนบาท ดอกเบี้ยต่ำ 4-4.5% นาน 7-10 ปี ขณะที่ออมสินร่วมอัดฉีดเงินเพิ่มธนาคารประชาชนอีก 5 พันล้าน ดอกเบี้ยขั้นบันได 1-0.5% ต่อเดือน อนุมัติเกือบ 3 พันล้าน เอาใจผู้ปกครอง-นักเรียนรับเปิดเทอมใหม่ เพิ่มอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัวการศึกษาขั้นพื้นฐาน แก้ปัญหาโรงเรียนเก็บ "บริจาค" ไฟเขียวฟื้น "กรอ." เปิดทางนักศึกษากู้ยืมใช้รายได้ในอนาคตเป็นหลักประกัน ระบุเกิน 60 ปี ไม่ต้องจ่ายคืนเริ่มปีการศึกษา 2551
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติให้ขยายเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เป็น 7% ต่อไปอีก 2 ปี เป็นถึงวันที่ 30 ก.ย. 2553 จากเดิมที่จะหมดอายุมาตรการตามมติ ครม.เดิม ในวันที่ 30 ก.ย. 2551
- ครม.เห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากผ่านโครงการพัฒนาศักยภาพหมู่บ้านและชุมชน หรือเอสเอ็มแอลวงเงิน 1.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งทุกหมู่บ้านจะได้เงินไปพัฒนาตามขนาดของหมู่บ้าน ทำให้เกิดการพัฒนาและรายได้ในหมู่บ้านตนเอง
- วงการตลาดทุนฟันธงตลาดหลักทรัพย์ต้องแปลงสภาพ "ปกรณ์" ชี้ไทยกำลังถูกลดความสำคัญในตลาดทุนโลก เผยเติบโตแค่ 8% จากทั่วโลกโตเฉลี่ย 35% ขณะที่ บล.ภัทร ระบุต้องเร่งดำเนินการ หวั่น บจ.ไทยถูกตลาดต่างประเทศกลืน เตือนกระบวนการต้องปลอดจากการเมือง ด้านบีซีจีหนุนหุ้นไทยเร่งปรับโครงสร้างโดยไม่แปลงสภาพ เพื่อพัฒนาความสามารถแข่งขันให้อยู่รอดได้บนเวทีโลก
- แบงก์ชาติเผย พ.ร.บ.ธปท.ฉบับใหม่เปิดช่อง ธปท.รับเงินฝากแบงก์กินดอกเบี้ย ช่วยลดปริมาณการออกพันธบัตรและสัญญาสวอป เพื่อดูดสภาพคล่องจากการแทรกแซงบาทลงได้ และทำให้ ธปท.ดูแลเงินเฟ้อได้อยู่หมัด
- ตลท. เร่งแก้ไขการขายสิทธิในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (RO) ให้นักลงทุนรายอื่น โดยหารือกับ ก.ล.ต.เพื่อให้ขั้นตอนยื่นไฟลิ่งรวดเร็วและสะดวก เบื้องต้นเปิดซื้อขายสิทธิช่วงหลังขึ้น XR ก่อนเปิดเทรดภายใน 15 วัน "ปกรณ์" เผยปรับเป้าบริษัทเข้าจดทะเบียนจาก 107 บริษัทเหลือ 50 บริษัท เหตุมาตรการรัฐ ลดภาษีนิติบุคคลให้แก่บริษัทที่เข้าจดทะเบียนยืดออกไปอีก 1 ปี
- ณัฐวุฒิ สัจจพุทธวงค์ นักเศรษฐศาสตร์การเงินอาวุโส กลุ่มบริหารการเงินธนาคารไทยพาณิชย์ เชื่อว่าสิ้นปีนี้จะเห็นเงินบาทแข็งค่า 10% อยู่ที่ระดับ 30 บาทต่อเหรียญสหรัฐ แต่ระหว่างทางอาจเห็นเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 3.1.50-31.60 บาทต่อเหรียญสหรัฐ เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย ซึ่งอาจกินระยะเวลายาวถึง 2-3 ปีหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้น เงินบาทจะแข็งค่า 30-30.50 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ไปอีกระยะ
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--