นายมารุต แสงศาสตรา ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ไดนาสตี้เซรามิค (DCC) เปิดเผยว่า บริษัทปรับเป้าหมายรายได้ปี 65 ลงเหลือทำได้ใกล้เคียงปีก่อน จากเดิมคาดเติบโตราว 5% จากปี 64 ที่มีรายได้อยู่ที่ 8,480.62 ล้านบาท เนื่องจากครึ่งปีแรกยอดขายรวมลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และยอมรับว่ายอดขายครึ่งปีหลังนี้คงจะยังไม่ดีขึ้น จากเป็นช่วงโลซีซั่นหรือฤดูฝน ฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิต ซึ่งตามปกติสัดส่วนยอดขายครึ่งปีแรกจะอยู่ที่ 60-70% และครึ่งปีหลังประมาณ 30-40%
อย่างไรก็ตาม กำไรครึ่งปีหลังน่าจะปรับตัวดีขึ้น โดยเชื่อว่าราคาก๊าซ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักของต้นทุนผลิตน่าจะพ้นจุดสูงสุดไปแล้วในช่วงที่ผ่านมาและเริ่มปรับตัวลง ทำให้บริษัทน่าจะได้ประโยชน์จากต้นทุนที่อาจลดลง ส่วนราคาขาย ยอมรับว่าปัจจุบันอยู่ในจุดที่สูงแล้ว ทำให้ยากแก่การปรับราคาขึ้นไปอีก เพราะอาจส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อได้ ประกอบผู้ประกอบการในไทยมีการนำสินค้าเข้ามาขายค่อนข้างมาก ส่งผลให้สินค้าพอร์ซเลน (Porcelain) ไม่สามารถดันราคาให้สูงขึ้นไปกว่านี้ได้ แต่บริษัทก็เตรียมที่จะออกสินค้า ขนาดใหม่ ประมาณ 60x120 ซม.เพื่อจำหน่ายในราคาที่สูงขึ้นได้ในเดือน ก.ย.นี้
"เรามองว่าราคาขายคงไม่สามารถปรับขึ้นได้ ต้นทุนอาจจะดีขึ้น แต่ยอดขายลดลง ทำให้คาดผลงานครึ่งปีหลังนี้น่าจะทรงๆตัว ถ้าเปรียบเทียบกับปีก่อน แต่ถ้าเทียบกับครึ่งปีแรกไม่ดีกว่าแน่นอน แต่กำไรยังพอสูสี" นายมารุต กล่าว
บริษัทยังคงเดินหน้าการลงทุนเพิ่มเติม โดยเฉพาะการเปิดสาขาใหม่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างสาขาเพิ่มอีก 5 สาขา ประกอบด้วย สาขาในอำเภอหาดใหญ่, สาขาในจังหวัดสุราษฎร์ธานี, สาขาในจังหวัดราชบุรี, สาขาในจังหวัดกาญจนบุรี และ สาขาในจังหวัดกระบี่ โดยได้เพิ่มวงเงินลงทุนเป็น 700 ล้านบาท จากเดิมวางไว้ราว 500 ล้านบาท ซึ่งเงินลงทุนดังกล่าวจะรวมถึงการใช้ปรับปรุงสาขาเดิมด้วย คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ในปี 66 เป็นต้นไป
ส่วนการขยายตลาดส่งออก บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาขยายตลาดไปในตะวันออกกลางและดูไบ ขณะเดียวกันที่ผ่านมาก็ได้เข้าไปเปิดบูธในงานสถาปนิกในประเทศกัมพูชาเป็นครั้งแรก เพื่อเปิดตัวกระเบื้อง Porcelain และไปหาพันธมิตร ซึ่งในช่วงกลางเดือนก.ย.นี้ บริษัทเตรียมไปเจรจากับร้านค้าในกัมพูชา โดยมองหาร้านค้า 2 ประเภท คือ ร้านค้าที่รองรับการดำเนินโครงการ และร้านค้าปลีก ที่คล้ายกับ DCC โดยตั้งเป้าหมายสัดส่วนรายได้จากการส่งออกเติบโตเป็น 5% ในอนาคต จากปัจจุบันอยู่ที่ 3%