นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สบาย เทคโนโลยี (SABUY) เปิดเผยว่า บริษัทวางงบลงทุนไว้อีก 5,000 ล้านบาทเพื่อใช้เข้าซื้อกิจการ (M&A) และ ร่วมลงทุน (JV) ในหลากหลายกลุ่มธุรกิจ อาทิเช่น ร้านสะดวกซื้อ, Multilevel Marketing ,ธุรกิจน้ำ, Payment และ ธุรกิจเกมส์ ซึ่งจะเริ่มทยอยเห็นความชัดเจนอย่างต่อเนื่องในข่วงที่เหลือของปีนี้
ขณะที่บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 66 จะเพิ่มขึ้นเป็น 20,000 ล้านบาท โดยจะมาจากการเติบโตในทุกๆ ธุรกิจของบริษัทที่เข้ามาเสริมการเติบโตซึ่งกันและกัน โดยจะมีรายได้จากธุรกิจเดิม 5,000 ล้านบาท ธุรกิจใหม่กลุ่ม Enterprise & Life ประมาณ 9,000 ล้านบาท กลุ่ม Connext ประมาณ 3,000 ล้านบาท กลุ่ม InnoTainment ประมาณ 1,000 ล้านบาท กลุ่ม Financial Inclusion ประมาณ 2,000 ล้านบาท
ปัจจุบันกลุ่มของ SABUY มีทั้งหมด 6 กลุ่มธุรกิจคือ 1.Payments and Wallet ธุรกิจบริการด้านการชำระเงินและระบบการเงินอิเลคทรอนิกส์ 2. Enterprise & Life ธุรกิจให้บริการสำหรับองค์กรและไลฟ์สไตล์ด้วยความเข้าใจผู้บริโภค 3. Connext ธุรกิจช่องทางการจัดจำหน่ายและเชื่อมต่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม 4. Financial Inclusion ธุรกิจให้บริการสินเชื่อและประกันภัย 5. InnoTainment ธุรกิจนวัตกรรมทางสื่อ ดิจิทัลมีเดีย และเครือข่าย 6. Venture ธุรกิจการลงทุน
สำหรับทิศทางผลประกอบการในปี 65 บริษัทมุ่งมั่นและคงเป้าหมายรายได้ 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากธุรกิจเดิม 3,000 ล้านบาท เพิ่มเติมด้วยธุรกิจใหม่ในกลุ่ม Connext ประมาณ 500 ล้านบาท Enterprise & Life ประมาณ 1,300 ล้านบาท
บริษัทสามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง จากธุรกิจโซลูชั่นส์และช่องทางการขายและบริการ (Solutions and Channels) ผ่าน Drop-off ต่างๆ และธุรกิจการขายสินค้าและผลิตภัณฑ์ (Retail) ผ่านทาง PTECH ในขณะที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารโดยการคุมค่าใช้จ่ายได้ดีจากการควบรวมกลุ่ม Drop-off หลายแบรนด์เข้าด้วยกันเมื่อช่วงต้นปี เช่น The Letter Post, Point Express, PaysPost, ตลอดจนการนำบริษัทอื่นๆ เข้ารวมกลุ่มเช่น CitySoft, ForthSABUY, TeroSABUY, PFS, ฯลฯ
จากความมุ่งมั่นที่ SABUY ได้มีการขยายธุรกิจต่างๆอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการวางกลยุทธ์ด้าน Sustainability ในการเติบโต หรือ Growth Strategy อย่างมีนัยสำคัญ โดยในส่วนของการเติบโตอย่างยั่งยืน หรือ Sustainability Growth นั้น บริษัทฯ ได้มีการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทั้งด้านการพัฒนาบุคลากร การนำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในระบบงาน การปรับปรุงกระบวนการทำงาน การบริหารความเสี่ยง การกำกับดูแลบริษัทที่ดี การตรวจสอบภายใน ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นส่วนสำคัญ และมีส่วนช่วยให้ SABUY สามารถเติบโต มั่นคง และยั่งยืน ต่อไปในอนาคต
ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 2/65 บริษัทมีรายได้รวม 756 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 369 ล้านบาท หรือ 95% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรขั้นต้น 215 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนคิดเป็น 19% และมีกำไรสุทธิ 356 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 309 ล้านบาท หรือ 657% โดยคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิสูงถึง 47% โดย SABUY รับรู้กำไรจากการลงทุนในบริษัทต่างๆในกลุ่ม