KCE ปรับตัวลงนำหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อเวลา 10.08 น. โดยลบ 7.20% หรือลดลง 4.50 บาท มาที่ 58.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 670.59 ล้านบาท โดยราคาลงไปต่ำสุด 57.50 บาท จากราคาเปิด 58.25 บาท ราคาสูงสุด 58.50 บาท
HANA ลบ 4.92% หรือลดลง 2.25 บาท มาที่ 43.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 140.78 ล้านบาท
DELTA บวก 1.49% หรือลดลง 8.00 บาท มาที่ 530.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 312.38 ล้านบาท
บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า KCE รายงานกำไรไตรมาส 2/65 เหลือเพียง 572 ล้านบาท -7% YoY, -3% QoQ โดยกำไรจาก Fx ราว 9.5 ล้านบาท และ ขาดทุนจากเงินลงทุนราว 39 ล้านบาท ดังนั้นกำไรปกติจะอยู่ที่ราว 600 ล้านบาท +7% YoY, +2% QoQ
1.รายได้ในรูปเงิน USD อยู่ที่ 136 ล้านเหรียญฯ +20% YoY, -1.2% QoQ โดยเพิ่มขึ้น YoY จาก Product Mix ที่เป็น Special grade เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ลดลง QoQ เนื่องด้วยไตรมาส 2 เป็นช่วงหยุดยาวและ ปัญหาการขาดตู้คอนแทนเนอร์ยังคงอยู่ ทำให้บริษัทมีการเลื่อนส่งสินค้า
2.Margin อยู่ที่ 22.8% ทรงตัวจากไตรมาสก่อน ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากผลกระทบค่าเงินบาทที่อ่อนค่าอย่างมากทำให้ต้นทุนการนำเข้าสูงขึ้น และราคาวัสดุสิ้นเปลืองปรับเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้เราจะมีการปรับประมาณการใหม่หลังจากมีการประชุมนักวิเคราะห์ในวัน 10 ส.ค. ซึ่งมีแนวโน้มจะปรับประมาณการกำไรปี 65 ลง จาก Margin ที่ไม่ฟื้นตามคาด ซึ่งประเมิน Margin ทั้งปีไว้ที่ 29% แต่ครึ่งปีแรก Margin บริษัทยังไม่สามารถปรับเพิ่มขึ้นได้ตามที่คาดไว้ โดยจะประเมินแนวโน้มในครึ่งปีหลังใหม่อีกครั้งหลังจากประชุมนักวิเคราะห์