แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ในการประชุมบอร์ด กสทช.วันนี้ยังไม่มีการนำวาระการพิจารณาลงมติเรื่องการควบรวมของบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) และบมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) เข้าที่ประชุม เนื่องจากการประชุมบอร์ด กสทช.ครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการ กสทช.ทั้ง 5 ราย เห็นว่าผลการศึกษา ที่สำนักงาน กสทช. จัดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ หรือ โฟกัสกรุ๊ป โดยคณะอนุกรรมการ 4 คณะที่ตั้งขึ้น รวมถึงผลศึกษาจากจุฬาฯ และเอกชนยังไม่ครบถ้วน จึงมีมติให้ทางสำนักงาน กสทช. รวมข้อมูลมาเสนอให้บอร์ด กสทช. เพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้ข้อมูลดังกล่าวยังรวบรวมยังไม่แล้วเสร็จ
ด้านนางสาวปาณิสรา ตุงคะสามน เจ้าหน้าที่ฝ่ายนโยบายและนวัตกรรม สภาองค์กรของผู้บริโภค เปิดเผยว่า กลุ่มพลเมืองเพื่อเสรีภาพในการสื่อสาร และสภาองค์กรของผู้บริโภค ได้เข้ายื่นคัดค้านการควบรวมครั้งนี้ผ่านไปที่สถานฑูตนอร์เวย์ เนื่องจากมีความกังวลในข้อเสนอควบรวมกิจการ TRUE และ DTAC ซึ่ง DTAC เป็นบริษัทสื่อสารสัญชาตินอร์เวย์ ในประเด็นข้อเสนอในการควบรวมกิจการของทั้งสองบริษัทฯ ขัดต่อพ.ร.บ.โทรคมนาคม มาตรา 21 ซึ่งการควบรวมกิจการจะทำให้เหลือผู้ให้บริการกิจการโทรคมนาคมหลักน้อยลง เพียงสองรายเท่านั้น ซึ่งจะมีผลกระทบต่อผู้บริโภค ทั้งในแง่การพัฒนาคุณภาพบริการ และการกำหนดราคา โดยที่ประชาชนไม่มีทางเลือก รวมถึงกังวลเรื่องเสรีภาพในการสื่อสารของประชาชน ที่อาจถูกแทรกแซงโดยบริษัทเอกชนหรือรัฐได้ง่ายขึ้น
ปัจจุบัน DTAC มีส่วนแบ่งการตลาดมือถืออยู่ที่ 19.6 ล้านเลขหมาย หรือสัดส่วน 20% ขณะที่ TRUE อยู่ที่ 32.2 ล้านเลขหมาย หรือ ส่วนแบ่งตลาด 34% และAIS อยู่ที่ 44.1 ล้านเลขหมาย หรือมีส่วนแบ่ง 46%
นางสาวปาณิสรา กล่าวว่า จะเห็นได้ว่าหากการควบรวมเกิดขึ้น จะทำให้มีผู้ให้บริการรายใหญ่เหลือเพียงสองราย และจะทำให้บริษัทที่ควบรวมแล้ว มีส่วนแบ่งทางการตลาดเกินกึ่งหนึ่ง ทำให้สามารถชี้นำตลาดได้ ทั้งในเรื่องราคาและคุณภาพของการให้บริการ