นายศักดิ์บวร พุกกะณะสุต กรรมการผู้จัดการ บมจ.อินฟราเซท (INSET) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้จะเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก จากการทยอยรับรู้งานในมือ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาส 2/65 มีอยู่ที่ 2,100 ล้านบาท แบ่งเป็น ธุรกิจก่อสร้างศูนย์ข้อมูลและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ จำนวน 538.67 ล้านบาท, ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานโครงข่ายโทรคมนาคมและคมนาคมขนส่ง จำนวน 1,014.85 ล้านบาท และธุรกิจงานซ่อมบำรุงและบริการ 546.96 ล้านบาท รวมถึงยังมีงานที่ยื่นประมูลเพิ่มเติมอีกหลายโครงการ คาดว่าจะได้รับงาน และสนับสนุนงานในมือให้เติบโตขึ้นไปอีก
สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้บริษัทฯ ยังคงเป้ารายได้โต 15-20% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 1,316.44 ล้านบาท จากการเติบโตของธุรกิจศูนย์ข้อมูลและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งมองว่า DATA Center ยังเป็นเมกะเทรนด์ในอีก 4-5 ปี ข้างหน้า ตามความนิยมที่มากขึ้นในการใช้บริการระบบคลาวด์ ระบบ 5G และเทคโนโลยี IoT (Internet of Things) ที่สร้างความต้องการศูนย์ข้อมูลหรือดาต้าเซ็นเตอร์มากขึ้น ศูนย์ข้อมูลนั้นเป็นองค์ประกอบหลักของการดำเนินธุรกิจ ซึ่งประกอบด้วยคลังสินค้าส่วนกลาง (แบบกายภาพหรือแบบเสมือน) ที่ใช้สำหรับการจัดเก็บข้อมูลระยะไกลและการประมวลผลข้อมูล ศูนย์ข้อมูลเหล่านี้ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่ใช้ในการรองรับการทำงานแบบระยะไกล เรื่องการศึกษา และทีวีสตรีมมิ่ง
นอกจากนี้คาดว่าจำนวนศูนย์ DATA Center ในประเทศไทย ที่ปัจจุบันมีอยู่ 31 แห่ง ในอีก 4-5 ปีจากนี้ ก็จะเพิ่มเป็น 40-50 แห่งได้ จากการขยายฐานการลงทุนเข้ามาของต่างประเทศ เนื่องจากตลาดไทยมีศักยภาพและเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงสู่กลุ่มประเทศอาเซียน ครอบคลุมทางบก ทางราง ทางอากาศ ทางน้ำ, มีสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนที่กระตุ้นให้ลงทุนในประเทศไทย, มีวัตถุดิบและชิ้นส่วนที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน, มีความพร้อมของอุตสาหกรรมสนับสนุน, มีโครงการร่วมลงทุนของภาครัฐ - เอกชน (PPP), มีบริการทำ Smart Visa เพื่อนักลงทุน, มีการส่งเสริมการลงทุน โดยสำนักงาน BOI รวมถึงไทยยังมีการเชื่อมโยงเคเบิ้ลใต้น้ำค่อนข้างครบ
"เรามองว่าในปีนี้ หรือ 4-5 ปีข้างหน้า ผู้ให้บริการ Cloud Service รายใหญ่ระดับโลกจะให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในบ้านเรา รวมถึงผู้ประกอบการไทยด้วย จากการปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับยุคดิจิทัล และยังมีปัจจัยหนุนจากการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับผู้ลงทุน DATA Center การผลักดันของภาครัฐที่จะให้ไทยเป็นศูนย์กลางดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Digital Hub)"นายศักดิ์บวร กล่าว
ด้านธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานโครงข่ายโทรคมนาคมและคมนาคมขนส่ง มองว่างาน 5G และระบบรถไฟฟ้าต่างๆ บริษัทฯ ยังได้รับงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการนำท่อร้อยสายไฟฟ้าลงดิน จัดภูมิทัศน์ประเทศให้สวยงาม การเพิ่มและลดของเสาสัญญาณ ส่วนธุรกิจงานซ่อมบำรุงและบริการ ถือเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ โดยปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 15% ซึ่งจากนี้ไปก็จะมุ่งเน้นธุรกิจดังกล่าวนี้มากขึ้น เพื่อให้มีรายได้ประจำอย่างสม่ำเสมอ