นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) (SYNEX) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดทิศทางธุรกิจในครึ่งปีหลังนี้จะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก จากการจับมือกับพันธมิตรรายใหม่เข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง อาทิ การประกาศจับมือ HONOR ผู้นำยอดขายสมาร์ทโฟนอันดับ 1 ในจีน เปิดเกมบุกตลาดสมาร์ทดีไวซ์ในไทย รับภาพรวมกำลังซื้อที่จะกลับมาคึกคัก และไฮซีซั่นของสินค้าไอทีในช่วงปลายปี โดยจะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง
รวมไปถึงการประกาศร่วมลงทุนกับบริษัท ไซเบอร์ตรอน จำกัด หรือ Cybertron บุกตลาดไซเบอร์ซีเคียวริตี้เต็มตัว คาดเห็นความชัดเจนเร็วๆ นี้ เพื่อผลักดันธุรกิจกลุ่มคอมเมอร์เชียลให้เติบโต เป็นอีก New S-Curve ที่จะสร้างกำไรให้ก้าวกระโดดได้ โดยบริษัทฯ จะมุ่งเน้นขยายตลาดดังกล่าวในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ควบคู่การให้ความสำคัญต่อการควบคุมค่าใช้จ่ายทั้งด้านการจัดจำหน่ายและการบริหารอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถรักษาศักยภาพในการแข่งขันได้ในระยะยาว ทำให้มั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ราว 15% หรือมีรายได้ทะลุ 40,000 ล้านบาท ทำสถิติใหม่ต่อเนื่อง
ด้านผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/65 เติบโตจากสถานการณ์การขาดแคลนสินค้าปรับตัวดีขึ้น สนับสนุนรายได้จากการขายและให้บริการปรับตัวเพิ่มขึ้นแม้เป็นช่วง Low season ของการจัดจำหน่ายสินค้าไอที นอกจากนี้ กลุ่มสินค้าคอมเมอร์เชียลเริ่มเห็นสัญญาณการเติบโตที่แข็งแรง ทำให้ภาพรวมผลประกอบการในไตรมาส 2 ปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการ 9,591.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,209.49 ล้านบาท หรือ 14.43% มีกำไรขั้นต้น 408.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.82 ล้านบาท หรือ 1.44% ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 192.24 ล้านบาท ลดลง 18.88 ล้านบาท หรือ 8.94% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
เนื่องจาก ผลกระทบจากปัจจัยลบในด้านต่างๆ อาทิ อัตราเงินเฟ้อ และการแข็งค่าขึ้นของเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯ ลดลงเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ยังสามารถทำกำไรได้ในอัตราที่ดี เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงก่อนสถานการณ์ COVID-19 นอกจากนี้ มีสาเหตุหลักมาจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของบริษัทร่วมที่ใช้วิธีส่วนได้เสียที่ลดลง ในขณะที่ผลกำไรของงบการเงินเฉพาะกิจการยังคงเติบโต
ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรก มีรายได้จากการขายและให้บริการเท่ากับ 19,550.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,531.92 ล้านบาท หรือ 14.88% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากสถานการณ์การขาดแคลนสินค้าปรับตัวดีขึ้น และความต้องการของสินค้าในกลุ่มคอมเมอร์เชียล โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าระบบเครือข่าย (Network) และคอมพิวเตอร์แบบพกพาสำหรับองค์กรมีการเติบโต จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 เริ่มดีขึ้นทำให้มีการลงทุนในโครงการต่างๆ มากขึ้น ทั้งในภาครัฐและในภาคเอกชน รวมถึงการเติบโตของยอดขายในกลุ่มสินค้าเกมมิ่ง ถึงแม้ว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 2/65 จะลดลง แต่สำหรับงวด 6 เดือนยังคงเติบโต โดยมีกำไรสุทธิเท่ากับ 414.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.26 ล้านบาท หรือ 4.61% จากปีก่อน ด้วยการบริหารงานกลยุทธ์ที่เฉียบคม มีการกระจายความเสี่ยงด้วยแบรนด์ที่จัดจำหน่ายครอบคลุมกว่า 60 แบรนด์ และจุดแข็งจากการมีดีลเลอร์และช่องทางการจัดจำหน่ายทั่วประเทศอีกกว่า 6,000 ช่องทาง นอกจากนี้การบริหารยังคำนึงถึงสังคม และสิ่งแวดล้อม ที่ยิ่งตอกย้ำการดำเนินงานแบบไอทีอีโคซิสเต็มได้อย่างเต็มรูปแบบ และให้ความสำคัญในการสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อผู้ถือหุ้น ทั้งนี้คณะกรรมการมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล งวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.65 ในอัตราหุ้นละ 0.18 บาท/หุ้น กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 23 ส.ค.65 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 5 ก.ย.65 นี้