นางอมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ธนพิริยะ (TNP) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง จะเติบโตกว่าครึ่งปีแรก จากเข้าสู่ไฮซีซั่นของทางภาคเหนือ นักท่องเที่ยวทั้งจากในประเทศและต่างประเทศกลับมาเดินทาง สนับนุนการจับจ่ายใช้สอยในจังหวัดกลับมาคึกคัก อีกทั้งการเปิดตลาดใหม่ ขยายฐานลูกค้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ ธนพิริยะลาซาด้า บนแอปพลิเคชัน LAZADA เพื่อเข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศ ซึ่งผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ มองว่าจะเป็นจิ๊กซอว์ที่เสริมกระแสเงินสดให้ธนพิริยะได้รับเทรนด์ยุคดิจิทัล
ด้านผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 2/65 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายจำนวน 579.10 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 25.45 ล้านบาท คิดเป็น 4.21% ด้านกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 100.71 ล้านบาท ลดลง 6.89% สนับสนุนให้มีกำไรสุทธิเท่ากับ 34.25 ล้านบาท ลดลง 22.06% โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 17.39% อัตรากำไรสุทธิ 5.88% ซึ่งการลดลงของยอดขายเกิดจากกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ประกอบกับการลดมาตรการกระตุ้นค่าใช้จ่ายของประชาชนจากมาตรการของภาครัฐ ซึ่งช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้บริโภคในปีที่ผ่านมา
ขณะที่ ผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรก ปี 65 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายจำนวน 1,167.30 ล้านบาท ลดลง 13.94% และมีกำไรสุทธิ 70.03 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 5.96% อย่างไรก็ตาม รายได้จากการขายส่วนหนึ่งของบริษัทเพิ่มขึ้นจากการการเปิดสาขาใหม่ ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์หลักในการขยายธุรกิจ โดยในปี 64 และครึ่งปีแรกของปี 65 บริษัทได้เปิดสาขาใหม่รวมจำนวน 7 สาขา สนับสนุนให้ปัจจุบัน ธนพิริยะมีจำนวนทั้งหมด 39 สาขา ครอบคลุมโซนภาคเหนือตอนบน ทั้ง เชียงราย เชียงใหม่ และพะเยา ตั้งเป้าขยายสาขาให้ได้ครบ 44 สาขาในสิ้นปีนี้ เพื่อเข้าถึงแหล่งชุมชน และกระตุ้นยอดให้เพิ่มขึ้น