นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2/65 บริษัทฯ มีรายได้ขายและบริการ 211,431 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 6,568 ล้านบาท จากปริมาณการขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกกล่มธุรกิจ ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังจากมาตรการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มผ่อนคลาย พร้อมเดินหน้าในทิศทางใหม่ของการดำเนินธุรกิจที่มุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน (Inclusive Growth) ในทุกมิติ
ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2/65 ภาพรวมผลการดำเนินงานดีขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ เช่นเดียวกันกับด้านปริมาณขายก็ปรับเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ อันเป็นผลมาจากการที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวจากการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ส่งผลให้รายได้ของกลุ่มธุรกิจ Mobility และกลุ่มธุรกิจ Global เพิ่มจากปริมาณการขายน้ำมันอากาศยานและน้ำมันเตาในตลาดพาณิชย์เป็นหลัก รวมทั้งผลจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในหลายประเทศทั่วโลกและอุปทานที่ยังตึงตัวจากสถานการณ์คว่ำบาตรรัสเซียซึ่งเป็นประเทศส่งออกน้ำมัน เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจ Lifestyle ก็มีรายได้ขายเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ทั้งในส่วนของกลุ่มค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มค้าปลีกอื่น ๆตามเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวและช่วงวันหยุดยาวตามเทศกาล ทำให้ในไตรมาสนี้ OR รายได้ขายและบริการ และ กำไรสุทธิ จำนวน 211,431 ล้านบาท และ 6,568 ล้านบาท ตามลำดับ โดยเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน จำนวน 34,140 ล้านบาท และ 2,723 ล้านบาท ตามลำดับ
ในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา OR ได้เข้าลงทุนและร่วมลงทุนในหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าลงทุนในบริษัท เค-เน็กซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (KNEX) ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าแบบอุตสาหกรรม รวมถึงประกอบกิจการร้านสะดวกซัก ภายใต้แบรนด์ Otteri Wash & dry รวมทั้งได้เข้าลงทุนใน บริษัท โพลาร์ แบร์ มิชชั่น จำกัด ("freshket") ซึ่งนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการระบบห่วงโซ่อุปทานด้านอาหาร (Food Supply Chain Service) อีกทั้งยังได้ร่วมกับบริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด (บุญรอดฯ) จัดตั้งบริษัทร่วมทุน (Joint Venture) เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มสำเร็จรูปพร้อมดื่ม เพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และช่องทางการจำหน่าย ตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกรูปแบบของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รวมทั้งสร้างโอกาสในการเติบโตร่วมกันกับพันธมิตรในแบบ inclusive growth ซึ่งเป็นไปตามแนวทางการดำเนินธุรกิจของ OR ที่มุ่งเน้นเติบโตในแบบ Outside-In โดยแสวงหาโอกาสการลงทุนในตลาดใหม่ๆ ร่วมกับพันธมิตร
นางสาวจิราพร กล่าวว่า OR ยังคงมุ่งมั่นที่จะยกระดับธุรกิจให้เติบโตไปพร้อมกับสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยผนวกลงในโมเดลธุรกิจ ในไตรมาสที่ผ่าน OR ได้สานต่อกิจกรรมเติมเต็มรอยยิ้มให้เกษตรกรไทย โดยการรับซื้อผลผลิตต่าง ๆ จากเกษตรกรซึ่งประสบปัญหาจากการชะลอตัวของการรับซื้อผลผลิต การระบายผลผลิตออกสู่ตลาด ทั้งในและต่างประเทศ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อนำมามอบให้ผู้ที่เติมน้ำมันที่ PTT Station ไม่ว่าจะเป็นกระเทียม หอมแดง และหอมหัวใหญ่ จำนวนรวม 13,707 กิโลกรัม ในเดือนเม.ย. มะม่วงแฟนซีและสัปปะรดภูแล รวมปริมาณ 300,000 กิโลกรัม จากเกษตรกรในภาคเหนือ ในเดือนพ.ค. และมังคุดและสัปปะรดปัตตาเวีย รวมปริมาณ 100,000 กิโลกรัม ในเดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ OR ยังพร้อมเปิดโอกาสให้ธุรกิจทุกประเภท ทุกขนาด เข้ามาสู่ระบบนิเวศทางธุรกิจของ OR เพื่อร่วมเติมเต็มศักยภาพและก้าวสู่ความสำเร็จไปด้วยกัน พลิกโฉมตัวเองเป็น Inclusive Growth Platform เพื่อรองรับการเติบโตร่วมกับพันธมิตรที่มีศักยภาพ โดยมีเป้าหมายในการสร้างผลเชิงบวกให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้การเติบโตทางธุรกิจเป็นการเติบโตร่วมกันแบบ Inclusive กับผู้คน สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างมั่นคงและยั่งยืน