"ทีเอ็มบีธนชาตมีความเข้าใจและมีความห่วงใยถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อลูกค้ากับทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าสินเชื่อ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่านอกจากการตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แล้ว มาตรการช่วยเหลือและโปรแกรมรวบหนี้ที่ทางธนาคารมีให้จะช่วยให้ลูกค้ามีสภาพคล่องในการใช้ชีวิตในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน ในขณะที่การปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากผ่านบัญชีดอกเบี้ยสูงจะเป็นการส่งเสริมให้คนไทยมีวินัยในการออมมากยิ่งขึ้น ตอกย้ำจุดยืนการเป็น The Bank of Financial Well-being ที่ต้องการสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทั้งในวันนี้ และอนาคต" นายปิติ กล่าว
ทั้งนี้ จากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวแบบไม่ทั่วถึง ค่าครองชีพของประชาชนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับทิศทางดอกเบี้ยที่อยู่ในขาขึ้น ส่งผลกระทบต่อลูกค้าและประชาชนทั่วไป ทีเอ็มบีธนชาตพร้อมดูแลให้การช่วยเหลือลูกค้า โดยเน้นให้ความสำคัญกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อชะลอผลกระทบต่อลูกค้าสินเชื่อทั้งในส่วนของกลุ่มลูกค้าบุคคลและผู้ประกอบการรายย่อยโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่รายได้ยังไม่กลับมาอยู่ในสภาวะปกติให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด สอดรับกับนโยบายของสมาคมธนาคารไทย
ทีเอ็มบีธนชาตจะยังตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไว้ที่ระดับเดิมและยังคงมาตรการช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อทุกกลุ่มภายใต้โครงการ "ตั้งหลัก" ซึ่งที่ผ่านมาได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้านการเงินจากสถานการณ์โควิด-19 ไปกว่า 750,00 ราย นอกจากนี้ ธนาคารยังมีโปรแกรมรวบหนี้ หรือ Debt Consolidation ผ่านสินทรัพย์บ้านหรือรถ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการเงินที่ดีในการช่วยลดภาระดอกเบี้ยและยอดผ่อนรายเดือน เสริมสภาพคล่องให้กับลูกค้าได้