CBG ปรับตัวลง 3.98% หรือลดลง 4.50 บาท มาที่ 108.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 911.97 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.07 น. จากราคาเปิด 112.50 บาท ราคาสูงสุด 112.50 บาท ราคาต่ำสุด 108.00 บาท
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์มีมุมมอง Neutral ต่อผลประกอบการ บมจ.คาราบาวกรุ๊ป (CBG) ไตรมาส 2/65 โดยกำไรสุทธิอยู่ที่ 742 ล้านบาท (-23%y-y, +12%q-q) ใกล้เคียงตลาดและเราคาด ติดลบ y-y จากฐานสูงในปีก่อน รวมกับต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น แต่บวก q-q จากยอดขายเติบโตอยู่ที่ 5,294 ล้านบาท (+5%y-y, +10%q-q) เติบโต y-y, q-q จากยอดขาย 3rd party distribution ที่เติบโตได้ดี และ Branded own ที่ฟื้นตัวชัดเจนทั้งในและต่างประเทศ
ด้านเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศบริษัทฯมีการเติบโตเชิงปริมาณที่ +8%y-y ขณะที่ตลาดรวม +1%y-y ทำให้ Market share ในประเทศมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ขณะที่ด้านต้นทุนวัตถุดิบในครึ่งหลังปี 65 เริ่มมีผ่อนคลายลงมาก ยังคงคำแนะนำ "Trading Buy" ที่ TP23F 118 บาท อิง PE32x
ด้าน บล.กรุงศรี ระบุบทวิเคราะห์ คาดว่าผลประกอบการของ CBG ในครึ่งหลังปี 65 ดีขึ้น yoy เนื่องจากคาดว่ายอดส่งออกจะฟื้นตัวขึ้นตามสถานการณ์ COVID-19 ที่ดีขึ้น และ ต้นทุนอลูมินัมลดลงเพราะการ lockdown ในจีน และภาคอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนแอ (หนี้สูง) ทำให้อุปสงค์อลูมินัมลดลง
ทั้งนี้ เมื่อเดือน ก.ค.65 ที่ผ่านมา IMF ได้ปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวของ GDP จีนในปี 65 ลง 1.1 ppt เหลือ +3.3% จาก +8.1% ในปี 64 โดยจีนเป็นผู้ผลิตและส่งออกอลูมินัมรายใหญ่ที่สุดของโลก คิดเป็นสัดส่วน 57% ของผลผลิตทั้งโลก และ 28% ของการส่งออกทั้งโลก
คงคำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น CBG ประเมินราคาเป้าหมายที่ 130 บาท เนื่องจาก (1) ตลาด CLMV กลับมาเปิดอีกครั้ง และ (2) ต้นทุนอลูมินัมลดลงในครึ่งปีหลัง ทั้งนี้ ประเมินราคาเป้าหมายด้วยวิธี DCF โดยใช้สมมติฐาน WACC ที่ 6.9%