นายอภิชาติ สระมูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ (TEAMG) เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลังบริษัทยังคงเดินหน้าประมูลงานใหม่ๆ ทั้งจากโครงการขนาดใหญ่ของทางภาครัฐ และภาคเอกชน รวมถึงการลงทุนเพิ่มในโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อสร้างรายได้ที่แน่นอน (Recurring Income) อย่างต่อเนื่อง มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท โดยเฉพาะงานออกแบบท่าอากาศยาน งานควบคุมงานก่อสร้างรถไฟ ท่าเรือ งานบริหารโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า และงานออกแบบและควบคุมงานก่อสร้างระบบผลิตน้ำประปา
ขณะที่ในครึ่งปีแรก บริษัทสามารถคว้างานประมูลโครงการต่างๆ จากภาครัฐ-รัฐวิสาหกิจ และเอกชนตามที่มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้นต่อเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 และการเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ สนับสนุนให้งานในมือ (Backlog) ดันทะลุ 4 พันล้านบาท ผลักดันผลงานของบริษัททั้งปีเติบโตตามเป้าหมาย
ขณะที่ในไตรมาส 3/65 บริษัทคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากโครงการติดตั้งและดำเนินการระบบผลิตน้ำประปา เพื่อใช้ในโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ (แห่งใหม่) อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้ตลอดอายุสัมปทาน 25 ปี มูลค่าโดยรวมประมาณ 245 ล้านบาท นอกเหนือจากงานวิศวกรรมที่ปรึกษาที่ดำเนินการอยู่เดิม
"ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทคาดว่าจะสามารถเข้าร่วมประมูลโครงการต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่องทั้งโครงการภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน หลังจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโครงการเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐที่ทยอยกลับมาดำเนินการต่อ ประกอบกับการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งเพื่อเพิ่มศักยภาพในการประมูลงานได้เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งบริษัทฯ ยังคงเฟ้นหาการเข้าควบรวมหรือการเข้าซื้อกิจการเกี่ยวกับธุรกิจนวัตกรรม และเทคโนโลยี ซึ่งยังคงมีการเจรจาต่อเนื่อง เพื่อให้ธุรกิจเติบโตแบบก้าวกระโดด และสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งหนุนการสร้างงานมูลค่า Backlog เพิ่มขึ้น โดยในปีนี้บริษัทฯ ยังคงเป้าการเติบโตอยู่ที่ 10%" นายอภิชาติ กล่าว
สำหรับไตรมาส 2/65 บริษัทฯ มีรายได้รวม 349.36 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขายและให้บริการ 346.38 ล้านบาท และจากรายได้อื่นๆ 2.98 ล้านบาท โดยรายได้จากการขายและให้บริการหลักมาจากการให้บริการงานโครงการภาครัฐ 182 ล้านบาท ลดลงจากโครงการภาครัฐที่มีความล่าช้าในการส่งมอบพื้นที่
อย่างไรก็ตาม รายได้จากโครงการเอกชน 120 ล้านบาท ยังคงเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ และโครงการต่างประเทศ 31.78 ล้านบาท เป็นการรับรู้รายได้ต่อเนื่องตามแผนจากโครงการในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ตั้งแต่ช่วงปลายปี 64 โดยยังคงรับรู้รายได้ต่อเนื่องตามแผนตลอดปี 65 และมีกำไรสุทธิ 5.65 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 18.58 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทรับรู้ต้นทุนจากโครงการภาครัฐที่เกิดขึ้นจริงเต็มจำนวน ขณะที่ชะลอการรับรู้รายได้โครงการภาครัฐดังกล่าวลง แต่คาดว่าในไตรมาสถัดไปจะสามารถเร่งดำเนินการโครงการดังกล่าวได้ตามแผน และสามารถกลับมารับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจนจบปี 65