นางวรวรรณ ไชยกำเนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล (KISS) เปิดเผยว่า ภาพรวมครึ่งปีหลังของปี 65 บริษัทยังคาดการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะเริ่มค่อยๆ ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่เริ่มอยู่ในการควบคุมได้ ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าภาคการบริโภคจะค่อยๆ เริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์ไว้ดังนี้
- เสริมความแข็งแกร่งในการเข้าสู่นวัตกรรมด้านสุขภาพ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และพันธกิจในการเป็นบริษัทชั้นนำด้านผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพครบวงจรแห่งเอเชีย จากการเข้าลงทุนในบริษัท ไฮไบโอไซ จำกัด (HIB) โดยมีแผนเปิดตัวสเปรย์พ่นจมูกป้องกันหรือยับยั้งเชื้อไวรัส COVID-19 โดยเป็นความร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) มหาวิทยาลัยศิลปากร และองค์การเภสัชกรรม ผลักดันงานวิจัยจากทีมแพทย์ไทยสู้โควิด-19 พัฒนานวัตกรรมโลก ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการจดทะเบียนใบอนุญาตกับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายได้ปลายไตรมาส 3/65 ถึงต้นไตรมาส 4/65 นี้
- การเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มุ่งเน้นการใช้นวัตกรรมด้านความงามและสุขภาพ ที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ (Beauty Convenience) โดยบริษัทจะยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าใหม่ภายใต้ แบรนด์ Rojukiss, Best Korea และ Sis2Sis อย่างต่อเนื่อง
- ปรับกลยุทธ์การลงทุนในการทำการตลาดโดยเน้นการทำสื่อผ่านสื่อ Digital ในการสื่อสารกับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บริษัทสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งใช้ข้อมูลในการวางแผนในการพัฒนาการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพ เพื่อมาใช้ในการวัดผล (Measurement) ผ่านการทำวิจัยตลาดในเชิงลึก
- เร่งขยายผลการเติบโตทั้งตลาดในประเทศ และตลาดต่างประเทศทั้งประเทศอินโดนีเซีย และเวียดนาม ผ่านแผนงานกระจายสินค้าให้ครอบคลุมมากขึ้น และเพิ่มสินค้าที่หลากหลายเพื่อรองรับการเติบโตในตลาดให้มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ตลาดที่มีแนวโน้มที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 2/65 ว่าบริษัทมีรายได้จากการขาย 192 ล้านบาท เติบโต 14% ขณะที่กำไรสุทธิ 31 ล้านบาท เติบโต 59% จากไตรมาสก่อน ทั้งนี้ รายได้ที่เติบโตหลักมาจากกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์บำรุงผิว Rojukiss brand และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง Sis2Sis ที่มีรายได้เพิ่มขึ้น 17.8% จากไตรมาสก่อน และมีสัดส่วนคิดเป็น 97.3% ของรายได้จากขายทั้งหมด
จากปรับกลยุทธ์การดำเนินงานในการรับมือสภาวะความผันผวนของเศรษฐกิจ กำลังซื้อของผู้บริโภค รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เน้นการใช้นวัตกรรมด้านความงามและสุขภาพ ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย รวมทั้งเน้นการทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ (Online Marketing) และ ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ด้วย KOL ในการสื่อสารให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายและชัดเจนมากยิ่งขึ้น สะท้อนรายได้ที่เติบโตขึ้นจากไตรมาสก่อน
นอกจากนี้ ในตลาดต่างประเทศ บริษัทยังคงสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 10.4% จากไตรมาสก่อน และเติบโต 54.7% จากปีก่อนหน้า จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า (Cleanser) ในช่วงไตรมาส 1/65 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคในต่างประเทศ รวมถึงการโฆษณาประชาสัมพันธ์แบรนด์ที่ทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว โดยบริษัทฯ ยังคงมีแผนที่จะเพิ่มสินค้าที่หลากหลายให้มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ตลาดที่มีแนวโน้มที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
อนึ่ง KISS แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 2/65 มีกำไรสุทธิ 31.41 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.05 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 32.36 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.05 บาท