WIN คาดสรุปขายหุ้น PPก่อน 29 เม.ย.,คาดรายได้ปี 51ก้าวกระโดดแตะ 500 ลบ.

          บมจ. วินโคสท์ อินดัสเทรียล พาร์ค(WIN)เตรียมสรุปขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ลงทุนเฉพาะเจาะจงPP)จำนวน 122.58 ล้านหุ้นได้ก่อนการประชุมผู้ถือหุ้น 29 เม.ย.จากขณะนี้มีผู้สนใจทั้งในประเทศและต่างประเทศ คาดได้เงินอย่างต่ำ 140 ล้านบาท เชื่อผู้ถือหุ้นเดิมยอมลดสัดส่วนหุ้นหลังเพิ่มทุนเพื่ออนาคตที่ดีขึ้น 
          ผู้บริหารตั้งเป้าปี 51 ทำรายได้แตะ 500 ล้านบาทจาก 102 ล้านบาทในปี 50 โดยหวังเป็นปีแห่งการ Turnaround ตามแนวนโยบายที่กำหนดไว้ พร้อมตั้งความหวังล้างขาดทุนสะสม 162 ล้านบาทภายในปีนี้ หลังมีแผนขยายบริการด้านพิธีศุลกากร-ขยายฐานลูกค้าออกนอกพื้นที่มาบตาพุดเพื่อเพิ่มรายได้ 
          สำหรับโครงสร้างรายได้หลักในปีนี้ยังมาจากลอจิสติกส์ 80-90% แต่ยังไม่ทิ้งธุรกิจ Free Zone โดยตั้งเป้าอัตราเช่าพื้นที่ฟรีโซนเพิ่มเป็น 40% จาก 19% ในปี 50
          นายนพพงษ์ อุรัจนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ WIN เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทจะเร่งสรุปการขายหุ้นเพิ่มทุนให้บุคคลในวงจำกัด (PP) จำนวน 122.58 ล้านบาทให้ได้ก่อนที่จะมีการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 29 เม.ย.นี้ โดยบริษัทคาดว่าจะได้รับเงินจากการเพิ่มทุนครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 140 ล้านบาท
          "PP ที่ว่ามีหลายราย มีทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่จะต้องสรุปให้ได้ก่อนการประชุมผู้ถือหุ้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับนักลงทุนว่าจะอนุมัติ"นายนพพงษ์ กล่าว
           อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผู้ถือหุ้นน่าจะมีมติเห็นชอบให้จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้ PP แม้ว่าจะต้องถูกลดสัดส่วนหุ้นประมาณ 20%ก็ตาม ทั้งนี้เพื่อเห็นแก่อนาคตที่ดีขึ้นของบริษัท
          "คงยากที่จะตอบแทนผู้ถือหุ้นว่าจะอนุมัติหรือไม่ แต่ฝ่ายบริหารพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นประโยชน์เพราะการเพิ่มทุนครั้งนี้ เพื่อนำมาใช้เป็น Working Cap ในการดำเนินธุรกิจปกติ ขยายงานในธุรกิจที่เห็นว่าจะมาเกื้อหนุนต่อธุรกิจเดิม และให้บริษัทมีรายได้มากขึ้น กำไรมากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อผู้ถือหุ้น นอกจากนี้เงินเพิ่มทุนบางส่วนก็ใช้ชำระหนี้"นายนพพงษ์ กล่าว
*ปีแห่งการ turnaround ตั้งเป้ารายได้แตะ 500 ลบ.
          นายนพพงษ์ กล่าวว่า สำหรับการขยายงานในปีนี้บริษัทมีแผนจะเพิ่มบริการด้านต่าง ๆ จากการเป็นตัวแทนค่าระวางเรือ และการให้บริการพิธีทางศุลกากร รวมทั้งทั้ขยายบริการใหม่ๆ ให้ทั้งลูกค้าเดิมที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และขยายฐานลูกค้าออกไปนอกพื้นที่ดังกล่าว เช่น ลูกค้าในพืนที่ภาคอีสาน และในเขตกรุงเทพมหานคร 
          ดังนั้น จึงเชื่อว่าจะทำให้รายได้ของบริษัทในปีนี้เติบโตก้าวกระโดดมาที่ 500 ล้านบาท จาก 102 ล้านบาทในปี 50 ขณะที่กำไรสุทธิก็จะเติบโตดีเช่นกัน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ CEO คนใหม่ ที่ต้องการให้ปี 51 เป็นปีแห่งการ Turn Around ของ WIN 
          โครงสร้างรายได้ของ WIN ในปี 51 จะมาจากธุรกิจลอจิสติก 80-90% ซึ่งประกอบด้วย ขนส่ง, บริการตัวแทนค่าระวางเรือ, บริการเดินพิธีการศุลกากร และบริการอื่นๆ ส่วนรายได้ที่เหลือจะมาจาก ธุรกิจให้เช่าพื้นที่ฟรีโซนประมาณ 10-15% ซึ่งตั้งเป้าเพิ่มอัตราเช่าพื้นที่ฟรีโซนปีนี้จะอยู่ที่ 40% จาก 19% ในปี 50 
          "ในส่วนของลอจิสติกที่เพิ่มขึ้น มาจากทั้งบริการใหม่ที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ นอกจากนี้ยังมีบริการขนส่งทางรถไฟ ซึ่งหากเทียบกันในช่วง ม.ค.ปี 50 เราเริ่มต้นจาก 1 ตู้ แต่ในเดือน ม.ค.51 เราเริ่มต้นที่ 3,600 ตู้ เพราะฉะนั้นวอลุ่มจะ Accurate Up ขึ้นไปเรื่อยๆ รายได้ในส่วนนี้จะเพิ่มขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด"นายนพพงษ์ กล่าว
          นายนพพงษ์ กล่าวว่า ปีนี้จะเป็นปีที่ดีที่สุดของธุรกิจเราตั้งแต่ออกจากแผนฟื้นฟูกิจการมาตั้งแต่ปี 48-49 โดยตั้งใจว่าจะล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ประมาณ 162 ล้านบาทให้ได้ในปีนี้ด้วย