นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บมจ.ไวส์ โลจิสติกส์ (WICE) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้จะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก จากเป็นช่วงของไฮซีซั่น ที่จะส่งผลให้มีปริมาณงานเพิ่มขึ้นมากกว่าต้นปี โดยคาดบริการขนส่งทางทะเล (Sea Freight) จะมีปริมาณการขนส่งทางทะเลเติบโต 20% จากครึ่งปีแรก สามารถขนส่งสินค้าได้จำนวน 5,091 TEUS หรือคิดเป็น 51% ของเป้าหมายทั้งปีที่คาดมีจำนวน 10,000 TEUS จากการขยายไปในตลาดสหรัฐฯ รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนค่าขนส่ง (Cost Freight Management) อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาระดับความสามารถการทำอัตรากำไรขั้นต้นให้เพิ่มขึ้น จากเดิมอยู่ที่ 16.5-20% ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการบริการต้นทุนร่วมกันกับสาขาในต่างประเทศ เพื่อเพิ่มอำนาจในการต่อรองต้นทุนจากสายเรือได้ดีขึ้น
การขนส่งทางอากาศ (Air Freight) ในครึ่งปีหลังนี้ถือเป็นช่วงไฮซีซั่น ทำให้ปริมาณงานขนส่งทางอากาศจะเพิ่มขึ้น ประกอบกับการเปิดประเทศในหลายประเทศ ทำให้จะมีไฟล์บินในการรับสินค้าได้มากขึ้น คาดว่าจะมีปริมาณงานดังกล่าวเพิ่มขึ้นราว 10% และอัตรากำไรขั้นต้นคาดจะอยู่ที่ 18% จากการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้นเช่นกัน
บริการขนส่งข้ามแดน (Cross Border Service) ได้รับปัจจัยบวกจากการกลับมาเปิดด่านในช่วงเดือนก.ค.65 หลังจากปิดด่านไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และปัจจุบันการขนส่งที่ด่านก็เริ่มกลับมาเป็นปกติแล้ว ซึ่งมีปริมาณการขนส่งข้ามแดนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เห็นได้จากเดือนก.ค.ที่ผ่านมาที่มีปริมาณการขนส่งข้ามแดนเพิ่มขึ้น 11% จึงคาดว่าปริมาณการขนส่งข้ามแดนในครึ่งปีหลังนี้จะกลับมาเป็นปกติได้ ส่งผลดีต่อรายได้ที่คาดจะเติบโต 40% จากครึ่งปีแรก
ทั้งนี้บริษัทฯ ยังได้วางมาตรการรองรับกรณีด่านมีปัญหาอีกในอนาคต ได้แก่ เปลี่ยนไปใช้ด่านอื่นเพิ่ม และนำเสนอ Road+Railway service ในกรณีที่ลูกค้ามีปัญหา เป็นต้น
นอกจากนี้ธุรกิจ Supply Chain Solution ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับงานการให้บริการคลังสินค้าแบบออนไซต์ (Onsite Warehouse Management) ให้กับบริษัทในกลุ่มสินค้าประเภทบรรจุภัณฑ์ของบริษัทในเครือ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) พื้นที่ขนาด 15,000 ตารางเมตร ระยะเวลา 4 ปี มูลค่าสัญญา 120 ล้านบาท โดยได้เริ่มดำเนินงานไปแล้วในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา และรับรู้รายได้แล้วด้วย อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีแผนที่จะเปิดคลังสินค้าเพิ่มอีกในช่วงปลายปีนี้ ประมาณ 5,000 ตารางเมตร
ส่วน E-commerce Collaboration Program บริษัทฯ จะร่วมมือกับพันธมิตรผู้จัดจำหน่ายและบริหารช่องทางการขาย E-commerce ในการขยายตลาด และขยายการให้บริการลูกค้าจากเดิม B2B ไปสู่ B2C เพื่อช่วยลูกค้าต่อยอดการทำธุรกิจ และสร้างการเติบโต เพื่อให้บริษัทยังสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง
นายชูเดช กล่าวว่า บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกันอยู่ราว 2-3 ราย โดยจะมีทั้งการทำ M&A, JV และ การเซ็น MOU เพื่อร่วมมือกับในหลากหลายรูปแบบ
สำหรับความคืบหน้าการเสนอขายหุ้นสามัญของบริษัทย่อย บริษัท ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ จำกัด (ETL) ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) คาดว่าจะสามารถยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ในช่วงปลายปีนี้ และนำ ETL เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้ในต้นปี 66