BCH ปรับลง 2.53% หรือลดลง 0.50 บาท มาที่ 19.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 247.79 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.08 น.จากราคาเปิด 19.50 บาท ราคาสูงสุด 19.50 บาท และราคาต่ำสุด 19.20 บาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาด บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) มีกำไรสุทธิในไตรมาส 3/65 ลดลงทั้ง YoY และ QoQ จากฐานที่สูงในปีก่อน และรายได้จากบริการที่เกี่ยวข้องกับโควิดลดลง เพราะรัฐบาลลดงบประมาณสนับสนุน รวมถึงการเจ็บป่วยโควิดไม่ได้มีอาการรุนแรงมาก
นอกจากนั้นความเสี่ยงหลัก คือ ร.พ.อาจจะต้องตั้งสำรองผลขาดทุนจากที่สั่งซื้อวัคซีนโควิดเข้ามามากแล้วยังขายออกไปไม่หมด หรืออาจต้องขายในราคาต่ำกว่าทุน ซึ่งทาง ร.พ.กำลังเร่งแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน เรายังไม่ได้สะท้อนไว้ในประมาณการจึงเป็น Downside risk ต่อประมาณการและคำแนะนำการลงทุน
กำไรสุทธิไตรมาส 2/65 เท่ากับ 1.14 พันล้านบาท ทรงตัว YoY, -44%QoQ ต่ำกว่ากว่าที่เราและตลาดคาดไว้ 8%/11% โดยมาจาก GPM น้อยกว่าคาด และค่าใช้จ่ายขายและบริหารสูงกว่าคาด
รายได้ไตรมาส 2/65 เติบโต YoY แต่ลด QoQ ส่วน GPM อ่อนลงจากไตรมาส 1/65 2 ทั้งนี้รายได้ไตรมาส 2/65 เติบโตถึง +28%YoY จากรายได้คนไข้เงินสดและประกันสังคมเพิ่มขึ้น แต่ลด -22%QoQ จากรายได้เกี่ยวกับโควิดน้อยลง ส่วน GPM ไตรมาส 2/65 ลดเป็น 37% จาก 45.1% ใน Q1/65 และ 46.3% ในไตรมาส 2/64 ซึ่งในช่วงนั้นรายได้โควิดเป็นสัดส่วนสูง ด้านค่าใช้จ่ายดำเนินงานก็เพิ่มขึ้น
แนวโน้มทั้งปี 65 ผู้บริหารยังยืนยันเป้ารายได้ 17 พันล้านบาท (-10%YoY) ส่วนรายได้ครึ่งปีหลังปี 65 ที่เติบโตจะเป็นรายได้ที่ไม่ใช่โควิด และรายได้จากคนไข้ต่างชาติที่เริ่มกลับเข้ามา โดยเฉพาะคนไข้จากตะวันออกกลาง
ดีบีเอสฯ แนะนำ "ถือ" ให้ราคาพื้นฐาน 20.40 บาท โดย Key growth ในปี 66 คือ รายได้จากคนไข้ประกันสังคม จากคนไข้จดทะเบียนเข้าประกันสังคมกับ ร.พ.เพิ่มขึ้น และรายได้ต่อคนไข้สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม คาดกำไรสุทธิปี 65-66 ลดลง -37% และ -65% เป็น 4.28 และ 1.48 พันล้านบาท