นายกิรณ ลิมปพยอม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู เพาเวอร์ (BPP) เปิดเผยถึงแผนการลงทุนเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตใหม่ แบ่งเป็น การลงทุนในโครงการพลังงานขนาดใหญ่ ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนเพิ่มกำลังผลิตกว่า 2 พันเมกะวัตต์ โดยเฉพาะโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไปที่ใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (High Efficiency, Low Emissions : HELE) ในตลาดที่มีการซื้อขายไฟฟ้าแบบเสรีคือสหรัฐอเมริกา 2-3 โครงการ กำลังการผลิตโครงการละ 700-800 เมกะวัตต์ รวมทั้งการลงทุนในประเทศจีนอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตร 2-3 โครงการในภาคตะวันออกและภาคใต้ของจีน
ส่วนการลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียนใหม่ (Renewable) บริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสการลงทุนอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาจำนวนหนึ่ง มุ่งเน้นใน 8 ประเทศที่มีการดำเนินการอยู่แล้ว
ทั้งหมดนี้จะเป็นการสนับสนุนให้กำลังการผลิตติดตั้งรวมของ BPP เติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 5,300 เมกะวัตต์ภายในปี 68 ที่จะมาจากโครงการ HELE และ Thermal รวม 4,500 เมกะวัตต์ และโครงการพลังงานหมุนเวียน (Renewables) รวม 800 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการลงทุนรวมอยู่ที่ 3,272 เมกะวัตต์
บริษัทวางงบลงทุนไว้ 500-600 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อรองรับการลงทุนเพิ่มเมกะวัตต์ใหม่ตามแผนในช่วง 1-2 ปีจากนี้ โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ใช้ไปเพียงไม่ถึง 50 ล้านเหรียญสหรัฐ
ด้านธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน (Energy Technology) บริษัทยังคงมุ่งเน้นการลงทุนผ่านบ้านปู เน็กซ์ โดยมีเป้าหมายกำลังการผลิตภายในปี 68 ของโซลาร์รูฟท็อป (Solar : Rooftop&Floatin) ที่ 500 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันอยู่ที่ 139 เมกะวัตต์, ธุรกิจ Energy Storage Systems จะเพิ่มเป็น 3 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) จากปัจจุบันอยู่ที่ 1 GWh, ธุรกิจ E-Mobility โดยเป็นการลงทุนใน UMT,Beyong Green,FOMM,EVolt และ Haupcar ตั้งเป้าปี 68 มีผู้ใช้บริการ 430,000 คน/วัน มียานยนต์รวมทั้งสิ้นมากกว่า 5,500 คัน มีสถานีชาร์ต 2,000 จุด และมี e-ferries sold 100 ลำ จากปัจจุบันมีเพียง 1 ลำเท่านั้น, ธุรกิจ Smart Cities&Energy MGMT ตั้งเป้ามี 30 โครงการในปี 68 จากปัจจุบันมีโครงการรวมทั้งสิ้น 21 โครงการ ส่วนธุรกิจซื้อขายไฟฟ้าเสรี หรือ Energy Trading ตั้งเป้า 2,000 Gwh จากปัจจุบันอยู่ที่ 390 GWh
นายกีรณ ยังเปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/65 จะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้าและช่วงเดียวกันของปีก่อน จากสามารถปิดดีลซื้อขายโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศเวียดนามแล้วเสร็จ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้า ชูง็อก (Chu Ngoc) และ โครงการน็อนไห่ (Nhon Hai) กำลังการผลิตรวม 65-70 เมกะวัตต์
ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ หวินเจา ขนาดกำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ ปัจจุบันได้ดำเนินการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยอยู่ระหว่างรอใบนุญาตให้เดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ซึ่งคาดว่าจะสามารถ COD ได้ภายในช่วงที่เหลือของปี 65 เป็นต้นไป