ตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายพลิกร่วงไปกว่า 10 จุด หลังจากช่วงเช้าแกว่งกรอบแคบมาปิดในแดนบวกได้เล็กน้อย โดยช่วงบ่ายรับแรงขายหุ้นขนาดใหญ่หลังจากตลาดหุ้นยุโรปเปิดมาปรับตัวลดลง ตอบรับความกังวลปัญหาขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ รวมทั้งขายลดความเสี่ยงระหว่างรอติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสันโฮล
เมื่อเวลา 15.07 น.ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,615.65 จุด ลดลง 10.27 จุด (-0.63%)
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.18 น. ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,616.45 จุด ลดลง 9.47 จุด (-0.58%)
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรง มาจากแรงขายกลุ่มแบงก์ กลุ่มขนส่ง กลุ่มค้าปลีก กดดัน ซึ่งเป็นกลุ่มที่นักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อไว้ค่อนข้างมาก โดยมีปัจจัยลบจากปัญหาการเมืองระหว่างประเทศ ซึ่งมีการซ้อมรบระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีใต้อยู่ในขณะนี้
รวมทั้งนักลงทุนยังต้องการรอติดตามผลการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสันโฮลระหว่างวันที่ 25-27 ส.ค. ซึ่งนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดจะมีถ้อยแถลงในวันที่ 27 ส.ค.ประเด็นที่ต้องจับตาคือโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด 0.75% ในการเประชุมครั้งหน้า (20-21 ก.ย.) จึงมีแรงขายออกมาก่อน ซึ่งนักลงทุนต่างชาติที่เคยซื้อมาต่อเนื่องก็เห็นการชะลอการซื้อ
นอกจากนี้บรรยากาศการลงทุนในต่างประเทศไม่ดี โดยตลาดหุ้นฝั่งยุโรปเปิดตลาดปรับตัวลงกว่า 1% และหันไปซื้อกลุ่มพลังงาน และหุ้นกลุ่ม defensive เช่นเดียวกับหุ้นไทยที่มีแรงซื่อกลุ่มพลังงานและกลุ่มโรงพยาบาล
ให้แนวรับแรก 1,615 จุด หลังดัชนี SET หลุดระดับ 1,620 จุด และแนวรับถัดไป 1,610 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,620 จุด