นายสุรศักดิ์ โอสถานุเคราะห์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) (CNT) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ปรับลดเป้าหมายรายได้ปี 65 เหลือทำได้ 6,000 ล้านบาท จากเดิมที่คาดจะเติบโต 6,500 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 6,199 ล้านบาท เนื่องจากได้รับงานใหม่เข้ามาน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ จากงานบางโครงการที่คาดว่าจะประมูลในปีนี้ มีการประกาศเลื่อนการลงทุนไป รวมถึงมีงานที่ได้มาแล้วบางโครงการมีการปรับแปลนใหม่ ทำให้การดำเนินการก่อสร้างล่าช้าไปกว่ากำหนดเดิม ซึ่งมีผลต่อการส่งมอบงานและรับรู้รายได้
เดิมบริษัทฯ ตั้งเป้าจะเข้าประมูลงานใหม่ในปีนี้ทั้งสิ้น 21,000 ล้านบาท และคาดหวังได้งานดังกล่าวที่ 5,500 ล้านบาท โดย 7 เดือนแรกประมูลงานไปแล้วราว 11,000 ล้านบาท ได้รับงานเข้ามาเพียง 1,970 ล้านบาท ขณะที่ใน 5 เดือนที่เหลือของปีนี้ก็คาดว่าจะเข้าประมูลงานใหม่เพิ่มอีก 10,000 ล้านบาท คาดหวังได้รับงานเข้ามา 3,000 ล้านบาท ส่งผลทำให้จะมีงานใหม่มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท ลดลงจากเป้าหมายที่ 5,500 ล้านบาท
สำหรับรายได้ในครึ่งปีหลังนี้ก็คาดว่าจะดีกว่าครึ่งปีแรกที่มีรายได้อยู่ที่ 12,551.36 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 11,159 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือของปีราว 2,000-3,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะรับรู้ใน 1-2 ปีถัดไป
ด้านแผนการลงทุน ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจาร่วมกับพันธมิตรที่มีศักยภาพ เพื่อร่วมลงทุน คาดว่าในช่วงปลายปี 65 จะเห็นความชัดเจนได้ มองว่าการร่วมมือที่เกิดขึ้นจะเข้ามาช่วยสร้างศักยภาพและโอกาสในการรับงานให้กับบริษัทได้เพิ่มมากขึ้น โดยเป็นการเอาองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญ และความชำนาญ ที่ทั้งบริษัทและพันธมิตรมีมาร่วมกันสร้างงานโครงการต่างๆ อีกทั้งมองว่ายังช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้มากขึ้นด้วย นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมองโอกาสในการลงทุนธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงจากธุรกิจหลัก หลังที่ผ่านมาได้มีการลงทุนพลังงานแสงอาทิตย์ โดยบริษัทย่อยเป็นผู้ดำเนินการติดตั้ง (EPC) ให้กับลูกค้า แต่มองว่ามีโอกาสที่จะเข้าไปพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าในอนาคต ด้วยต้นทุนทางพลังงานที่สูงขึ้น ทั้งราคาน้ำมันดิบ และค่าไฟฟ้า ทำให้ผู้ประกอบการโรงงานเริ่มมองหาพลังงานทดแทนเข้ามาลดต้นทุนกันมากขึ้น และในอนาคตจะขยายการลงทุนด้านพลังงานทดแทนไปยังกลุ่มประเทศในอาเซียนเพิ่มเติม