นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกลยุทธ์และการพัฒนาธุรกิจใหม่ บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น (SAMART) ในฐานะระธานกรรมการบริหาร บมจ. สามารถดิจิตอล (SDC) คาดว่า ผลประกอบการของ SDC จะกลับมามีกำไรในปี 66 หลังจากบริษัทปรับเปลี่ยนธุรกิจ ซึ่งในปัจจุบันมี 2 ธุรกิจคือ Digital Trunk Radio คาดว่าปีหน้าจะ Break event โดยลูกค้าส่วนใหญ่มาจากราชการ และธุรกิจ Digital Content Service ที่เกี่ยวกับธุรกิจด้านความเชื่อและโหราศาสตร์ในประเทศไทย ภายใต้การดำเนินงานบริษัท ลัคกี้ เฮงเฮง จำกัด (Lucky Heng Heng) เพื่อดำเนินธุรกิจและให้บริการด้าน Mu tech เต็มรูปแบบ
ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการขยายธุรกิจและเสริมศักยภาพการแข่งขันผ่านความร่วมมือกับองค์กรผู้ร่วมลงทุน ลัคกี้ เฮง เฮง จึงมีแผนระดมทุนในรูปแบบ Start up ที่คาดรู้ผลชัดเจนในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า
ปัจจุบัน SDC ถือหุ้น 100% ใน ลัคกี้ เฮงเฮง โดยมี 4 ธุรกิจหลักได้แก่ 1.Application เป็น One stop Service ทางด้านโหราศาสตร์และความเชื่อประกอบด้วยบริการดูดวงสดอนนไลน์ ดูโหงวเฮ้ง ฮวงจุ้ย และฤกษ์มงคลต่างๆ 2.Thai Merit Application บริการใหม่สำหรับสายบุญทั้งในและต่างประเทศ 3. Mu-Commerce สินค้าไลฟ์สไตล์สายมู และ 4. Mu-Keting การทำการตลาดด้านความเชื่อและความศรัทธาเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์สินค้าหรือองค์กรต่างๆ พร้อมยกตัวอย่าง ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธ.อ.ส.)ที่นำไปใช้บริการเสริมให้ลูกค้าที่จะดูฮวงจุ้ย ฤกษ์พิธีต่างๆ
นายวัฒน์ชัย กล่าวว่า จะเห็นว่า SDC เริ่มฟื้นตัวและมีโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆหลายอย่าง ทั้งหมดมาจาก 4 กลยุทธ์ในการสร้างความยั่งยืน ให้ SDC ได้แก่ 1.Focus Core Skills ใช้ความชำนาญด้าน Digital Technology & Network รวมทั้งประสบการณ์ในการให้บริการ Contents กว่า 20 ปี เป็นจุดแข็งในการให้บริการ 2.Balance Portfolio & Sources of Income สร้างสมดุล ผ่าน 2 สายธุรกิจ คือ Digital Trunk Radio เน้นสร้างรายได้ประจำจาก Corporate Clients และ Lucky Heng Heng เน้นสร้างรายได้เติบโตจาก Consumer 3.Open for Start up model and flexible structure เปิดกว้างในการลงทุนและการบริหารงาน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและความสามารถในการแข่งขัน และ 4.Build on benefits from Networking สร้างโอกาสในการต่อยอดธุรกิจ ผ่านเครือข่ายลูกค้าและพันธมิตรธุรกิจของกลุ่มสามารถ
"ผมเชื่อว่าความเชื่อความศรัทธาของคนไทยไม่มีวันจางหายไปจากสังคม จะมีการนำเรื่องความเชื่อความศรัทธาเข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิต จนเกิดเป็นเทรนด์ของการตลาดสายมู เป็นการสร้างสีสันสร้างจุดขายให้กับสินค้าและบริการอย่างแน่นอน และในอีก 2-3 ปี ข้างหน้า เป้าหมายของ Lucky Heng Heng จะเป็น No. 1 in Thailand และจะเป็น No. 1 in ASEAN เพราะเราเชื่อว่าตลาดมูในภูมิภาคนี้ใหญ่พอที่จะทำให้เราเป็น UNICORN ได้"นายวัฒน์ชัย กล่าว
ขณะเดียวกัน กลุ่ม SAMART คาดว่าจะยื่นไฟลิ่งของบมจ.สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ (SAV) ซึ่งถือหุ้น 100% ใน CATS ช่วงต้นปี 66 อีกครั้งหลังจากที่ได้หยุดดำเนินขั้นตอนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไปในช่วงเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เมื่อปี 63 ทั้งที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ได้อนุมัติไฟลิ่งแล้ว
โดย SAV ถือหุ้นใน CATS เพียงบริษัทเดียว ซึ่งบริการบริหารจัดการจราจรทางอากาศ (Air Navigation Service Provider : ANSP) เพียงรายเดียวในสนามบินในประเทศกัมพูชา โดยปัจจุบันปริมาณจราจรทางอากาศฟื้นตัวหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย และล่าสุด CATS ได้รับการต่อสัญญาสัมปทานระบบและให้บริการควบคุมการจราจรทางอากาศในประเทศกัมพูชากับรัฐบาลกัมพูชาออกไปอีก 10 ปี
ส่วนภาพรวมของ SAMART นายวัฒน์ชัย กล่าวว่า รายได้รวมปีนี้ยังไม่มั่นใจว่าจะทำรายได้ตามเป้าที่วางไว้ 1.4 หมื่นล้านบาทหรือไม่ เนื่องจากการส่งมอบงานทำได้ล่าช้าส่งผลการรับรู้รายได้ก็เลื่อนออกไป ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการขาดแคลนชิป
ด้านนายสุภวัส พรหมวิทักษ์ ผู้จัดการทั่วไป SDC กล่าวว่า Lucky Heng Heng เปิดตัวบริการใหม่ "Thai Merit" แอปพลิเคชันทำบุญออนไลน์ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่สายบุญในการไหว้พระ ขอพร แก้บน เสี่ยงเซียมซี ตลอดจนการทำบุญปล่อยนก ปล่อยปลา อำนวยความสะดวกผ่านช่องทางออนไลน์ ให้ Thai Merit เป็นตัวแทนทำบุญตามขั้นตอนอย่างถูกวิธี ต่อยอดจากบริการสายมูเดิมที่เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว คือ Horoworld
แอปพลิเคชันทำบุญออนไลน์ หรือ Thai Merit ได้รวบรวมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศไทยมากกว่า 100 แห่ง ซึ่งในแอปพลิเคชันจะอำนวยความสะดวกในการจัดของไหว้ และไหว้ขอพรให้กับกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการ รวมถึง แก้บน แก้ชง ในสถานที่แห่งนั้นๆ โดยผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่ เพื่อตอบสนองความต้องการในการทำบุญของคนไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงมีแผนพัฒนาเป็นภาษาจีนเพื่อตอบสนองความต้องการของชาวจีนที่มีความนิยมและศรัทธาในการทำบุญในเมืองไทย แอปพลิเคชัน Thai Merit พร้อมเปิดให้บริการในวันศุกร์ที่ 16 กันยายน 2565 นี้ โดยตั้งเป้ายอดดาวน์โหลด 100,000 ภายในสิ้นปี 2565
นายสุภวัส กล่าวเชื่อมั่นว่าธุรกิจ Lucky Heng Heng จะประสบความสำเร็จ เนื่องจากการสำรวจข้อมูลพบว่า 75%ชองประชากรไทย หรือ 52.5 ล้านคนมีความนิยมเรื่องโหราศาสตร์ ความเชื่อความศรัทธา และกลุ่ม Gen Y นิมยมากสุด โดยเฉพาะในช่วง 2 ปีนี้ความนิยมเพิ่มขึ้นจากคนในสังคมมีความเครียดมากขึ้น และมีการดูดวง ทำบุญมากขึ้น โดยจากการรวบรวมทุกแพลตฟอร์มมียอด Follow กว่า 7 แสนคน และมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นคาดขึ้นเป็น 1 ล้านคนในสิ้นปีนี้
นายสุภวัส กล่าวว่า จากที่ Lucky Heng Heng ดำเนิน 4 ธุรกิจหลักครบในปีนี้ คาดว่าจะมีรายได้ในปีแรก 156 ล้านบาท ปีที่ 2 คาดรายได้ โตเท่าตัวที่ 315 ล้านบาท ปีที่ 3 รายได้เพิ่มเป็น 550 ล้านบาท ปีที่ 4 รายได้เพิ่มเป็น 1,040 ล้านบาท และปีที่ 5 รายได้เพิ่มเป็น 2,055 ล้านบาท
"เรามั่นใจว่ารายได้จะโตเท่าตัวได้ จากการให้บริการ 4 บริการ โดยปัจจุบัน บริการ Horoworld ทำรายได้เดือนละ 2 ล้านบาท ส่วน Mu-Keting ที่เริ่มธุรกิจต้นปี 65 จะมองหาตลาดในกลุ่มบริษัท property , Bank "นายสุภวัส กล่าว