โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) หยวนต้า ซื้อ 16.10 ดาโอ ซื้อ 17.00 กรุงศรี ซื้อ 20.00 เอเชีย เวลท์ ซื้อ 17.00 คิงส์ฟอร์ด ซื้อเก็งกำไร 14.90
นายปรินทร์ นิกรกิตติโกศล นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ให้ BANPU เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มพลังงานในไตรมาส 3/65 เนื่องจากราคาถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ ดูดีกว่าฝั่งน้ำมัน เนื่องจากได้ประโยชน์จากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนมากกว่า ประกอบกับหากมีการเข้มงวดในการคว่ำบาตรรัสเซีย ก็จะทำให้ซัพพลายตึงตัว มีการนำเข้า LNG เพิ่ม ส่งผลดีต่อธุรกิจของบ้านปู ที่มีทั้งถ่ายหินและก๊าซ
ด้านผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/65 คาดยังดีต่อเนื่อง จากราคาถ่านหินและก๊าซที่ปรับตัวสูงขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และช่วงเดียวกันของปีก่อน ประกอบกับปริมาณการขายรวมก็เพิ่มขึ้นด้วย ตามความต้องการใช้ถ่านหินและก๊าชธรรมชาติ โดยธุรกิจก๊าซฯ จะได้ปัจจัยหนุนจากการควบรวมกิจการ XTO Energy หรือแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ เป็นไตรมาสแรก ส่งผลให้จะสามารถรับรู้กำลังการผลิตเข้ามาเพิ่มขึ้น โดยบล.หยวนต้า ประเมินกำไรปีนี้จะเติบโตแตะ 31,000 ล้านบาท แต่ยังมีอัพไซด์ที่จะขยับขึ้นได้อีก เนื่องจากกำไรครึ่งปีแรกคิดเป็น 74% ของเป้าหมายของเราแล้ว ทำให้อาจเห็นการปรับประมาณการกำไรขึ้นอีก
ทั้งนี้ระยะสั้นยังไม่เห็น BANPU ประกาศจ่ายปันผลงวดครึ่งปี แนะนักลงทุนหาจังหวะเข้าเก็งกำไรกับปัจจัยดังกล่าวได้ และทยอยขายทำกำไร หากใครที่รับความผันผวนไม่ได้ เนื่องจากเดือนก.ย.นี้ จะมีการแปลงสภาพวอร์แรนต์ (BANPU-W4)
แนะนำ ซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 16.10 บาท จากกำไรในช่วงที่เหลือของปียังแข็งแกร่ง สอดคล้องกับราคาพลังงาน, การ M&A, บาทอ่อนค่า ทำให้กำไรปีนี้จะทำระดับสูงสุดใหม่, ราคาถ่านหินและก๊าซธรรมชาติมีทิศทางแข็งแกร่งกว่าน้ำมันดิบ เพราะมีโอกาสแทรกแซงจากมาตรการต่างๆ น้อยกว่า และได้ประโยชน์จากความขัดแย้งของชาติตะวันตก, มีโอกาสเพิ่มเติมจากการ Spin-off บริษัทลูก BKV และความสำเร็จในธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน (Banpu Next)
บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า เชื่อว่าราคาถ่านหิน premium grade และก๊าซฯ จะยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงในครึ่งปีหลังนี้ โดยมีปัจจัยผลักดันหลักๆ จากภาวะขาดแคลนพลังงานและปริมาณสำรองคงคลังที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยก่อนเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว นอกจากนี้ BANPU จะเห็นปริมาณขายก๊าซฯที่สูงขึ้นจากการเข้าซื้อแหล่ง Barnett เพิ่มเติมจากบริษัท XTO Energy, Inc. and Barnett Gathering LLC (XTO) ซึ่งจะช่วยชดเชยผลขาดทุนจากเครื่องมือทางการเงิน (hedging loss) ที่คาดว่าจะยังคงทรงตัวสูงในครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นผลจากราคาก๊าซฯที่แข็งแกร่ง
ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65-66 ขึ้น 30% และ 26% เป็น 4.13 หมื่นล้านบาท และ 3.10 หมื่นล้านบาท เทียบ กับ 9.9 พันล้านบาทในปี 64 เพื่อสะท้อนสมมติฐานราคาถ่านหินและก๊าซฯที่สูงขึ้น, ปริมาณขายก๊าซฯที่ดีขึ้น, ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม (equity income) ที่สูงขึ้นซึ่งเป็นผลจากธุรกิจถ่านหินในจีน และกำไรพิเศษจากการรวมธุรกิจ (bargain purchase from business combination) จากการเข้าซื้อแหล่งก๊าซธรรมชาติ Barnett เพิ่มเติมในไตรมาส 2/65
ราคาหุ้น outperform SET 29% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา สอดคล้องกับแนวโน้มราคาถ่านหินและก๊าซฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้นจากความกังวลด้านอุปทานตึงตัว ทั้งนี้มองว่ากำไรของบริษัทจะแข็งแกร่งต่อเนื่องไปในครึ่งปีหลังนี้ หนุนด้วยราคาขายเฉลี่ย (ASP) ถ่านหินและก๊าซฯที่ยืนสูง อีกทั้งมีแรงหนุนจากปริมาณขายก๊าซฯที่สูงขึ้นจากการรวมสินทรัพย์ของ XTO เข้ามา
คงคำแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเป้าหมายใหม่ปี 66 ที่ 17.00 บาท (เดิม 16.00 บาท) โดยราคาเป้าหมายใหม่ได้รวมผลกระทบของการปรับประมาณการกำไรใหม่ การเปลี่ยนปีฐาน และ full dilution จากการใช้สิทธิ์ warrants (BANPU-W4, BANPU-W5) เข้าไปแล้ว เราเชื่อว่าบริษัทจะได้ประโยชน์จากราคาถ่านหินและก๊าซฯที่แข็งแกร่งในครึ่งปีหลัง จากความกังวลด้านอุปทานตึงตัว
บล.คิงส์ฟอร์ด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดแนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังยังเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหนุนจากราคาถ่านหินที่ทรงอยู่ในระดับสูง โดยราคาถ่านหิน Newcastle Exports Index (NEX) เฉลี่ยในไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 405 เหรียญสหรัฐ/ตัน ตามความต้องการใช้เพิ่มขึ้นและอุปทานยังตึงตัว รวมถึงรับผลบวกจากปริมาณก๊าซฯ จากรัสเซียผ่านท่อ Nord Stream 1 ลดลงเหลือ 20% สร้างความกังวลให้ยุโรปเพิ่มขึ้นหลังจากพยายามยกเลิกการนำเข้าถ่านหินจากรัสเซีย ทำให้ต้องใช้ถ่านหินจากแหล่งอื่นทดแทน
ส่วนธุรกิจก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ ราคาก๊าซฯ อ้างอิง Henry Hub เฉลี่ยในไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 7.4 เหรียญ/MMBTU ทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ยังได้รับแรงหนุนจากอุปทานในประเทศที่เพิ่มขึ้นไม่ทันต่อความต้องการ นอกจากนี้บริษัทจะเริ่มรับรู้ผลการดำเนินงานของ XTO Energy ตั้งแต่ 1 ก.ค.65 ส่งผลให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น +29% เป็น 900 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
ทั้งนี้จากแนวโน้มราคาถ่านหินที่ยืนในระดับสูงนานกว่าคาด ประกอบกับการรวมรายการพิเศษเข้าไว้ในประมาณการ เราจึงปรับเพิ่มคาดการณ์การกำไรสุทธิปี 65-66 เป็น 4.26 หมื่นล้านบาท +332% จากปีก่อน และจะปรับตัวลดลงเป็น 2.41 หมื่นล้านบาท -43% เมื่อเทียบกับปีนี้
ประเมินราคาเหมาะสมปี 65 ที่ 14.90 บาท คงคำแนะนำ ซื้อเก็งกำไร จากแนวโน้มผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในครึ่งปีหลัง และมี Story บวกนำธุรกิจก๊าซเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ ขณะที่บริษัทมีโอกาสประกาศจ่ายปันผลออกมาสูงตามผลประกอบการ โดยในส่วนของ BANPU-W4 จะมีการใช้สิทธิวันสุดท้าย 30 ก.ย.65 และจะขึ้น SP ระหว่างวันที่ 7 ก.ย.-30 ก.ย.65