บล.ดาโอ(ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า หลังจากที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้เปิดข้อเสนอซองที่ 1 ข้อเสนอด้านคุณสมบัติของการประกวดราคาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ปรากฏว่ามี 2 รายที่ยื่นซอง ได้แก่ 1)บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) และ 2) บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ (ITD) และ Incheon Transit Corporation ผ่านการพิจารณาซองที่ 1 แล้ว โดยได้ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการพิจารณาข้อเสนอซองที่ 1 ไปแล้วเมื่อวันที่ 23 ส.ค.
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (24 ส.ค.) คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ. การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 พร้อมด้วยเอกชนทั้ง 2 ราย ได้ร่วมเปิดข้อเสนอซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิค ซึ่งขั้นตอนจากนี้ รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกฯ จะพิจารณาข้อเสนอ โดยรายใดที่ผ่านการพิจารณาเอกสารซองที่ 2 ก็จะเข้าการเปิดข้อเสนอซองที่ 3 ข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทนต่อไป
DAOL มีมุมมองเป็นกลางซึ่งเป็นไปตามคาด โดยสำหรับขั้นตอนพิจารณาซองเทคนิค เบื้องต้นเราคาดจะใช้เวลาราว 2 สัปดาห์-1 เดือน อย่างไรก็ตาม เรายังมีความกังวลและมองว่าการประมูลมีความไม่แน่นอนสูงและมีโอกาสล่าช้า หลังจากที่ปัจจุบันสายสีส้มมีทั้งหมด 4 คดี (คดีศาลปกครอง 3 คดี และคดีศาลอาญาคดีทุจริตฯ 1 คดี) ซึ่งในเดือน ก.ค. BTS ได้ยื่นฟ้องศาลปกครองกลางเพิ่มเติมเพื่อขอให้เพิกถอนหรือยกเลิก RFP ประมูลรอบใหม่ ซึ่งยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล
เบื้องต้นสำหรับการประมูลสายสีส้ม DAOL มองว่ามีความเป็นไปได้ 3 แนวทาง 1) รฟม. เปิดประมูลควบคู่กับการยื่นอุทธรณ์และการฟ้องร้อง, 2) ชะลอการประมูลจนกว่ากระบวนการอุทธรณ์และกระบวนการทางกฎหมายและคดีความที่เกี่ยวข้องเสร็จสิ้น, และ 3) กลับไปยกเลิกประมูลครั้งเก่าให้ชอบด้วยกฎหมายและเปิดประมูลใหม่
อย่างไรก็ตาม หากการประมูลเดินหน้าต่อ สำหรับผู้ที่ยื่นซองเรายังให้แต้มต่อ BEM มากกว่า กรณีชนะประมูลจะเป็น upside ราคาเป้าหมาย BEM ราว 3 บาท และ CK 7 บาท เบื้องต้นสำหรับกลุ่มรับเหมา เราคง "Overweight" แต่มีโอกาสปรับน้ำหนักลงจาก catalyst การประมูลโครงการใหม่ที่เริ่มลดลงหลังใกล้เลือกตั้ง และกลุ่ม Ground Transport คงน้ำหนัก "Neutral"